Forearm Plank

0

Beginner โยคะอาสนะ ในการสร้าง หัวไหล่และแขนที่แข็งแรง

Forearm Plank

Forearm Plank 

ท่านี้ เป็นอีกท่า ที่ฝึกเพื่อ ช่วยทำให้ หัวไหล่ มีความแข็งแรง และ ฝึกให้ ท่อนแขน มีความแข็งแรง ถ้าได้ฝึก เป็นประจำ การลงน้ำหนัก ที่ถูกต้อง และการอยู่ ในท่าได้นาน จะเป็นการฝึก ให้กล้ามเนื้อ ได้รู้จัก กับน้ำหนัก ที่ต้องใช้ ในการฝึก Arm Balance ซึ่งมีหลาย อาสนะ ที่ต้องใช้ ความแข็งแรง ของ หัวไหล่ และ ท่อนแขน เพื่อสามารถ เข้าในท่าได้ ถูกต้อง

แต่จริงๆ แล้ว ท่านี้ ยังทำให้ ร่างกาย ในหลายๆส่วน แข็งแรงขึ้น ได้ด้วย เช่นกัน เพราะเวลา ที่ต้องอยู่ในท่า จำเป็น จะต้อง เกร็งกล้ามเนื้อ ในหลายๆ ส่วน เช่น ขา หน้าท้อง หน้าอก หลังส่วนบน เพื่อให้อยู่ ในท่า ได้นานขึ้น แต่เมื่อฝึก เป็นประจำ สิ่งแรกที่จ ะรู้สึกได้เลย คือ หัวไหล่ และท่อนแขน ที่มีความแข็งแรง มากขึ้น นั่นเอง

Fore1

Step 1.
  • คุกเข่า แยกหัวเข่า ทั้งสองออก ความกว้างพอดีกับ ช่วงสะโพก หัวเข่ากับ สะโพกตรงกัน (Table Pose)
  • วางข้อศอก ทั้งสองข้าง ที่พื้น กางนิ้วมือกว้าง ความกว้าง พอดีกับ ช่วงหัวไหล่
  • หลังเท้า ติดพื้น หน้าแข้ง ทั้งสองแนบพื้น ความห่างของขา ประมาณ ช่วงสะโพก
  • ลักษณะ ของท่า จะคล้ายๆ ท่าคลาน แต่วาง ข้อศอกลง
  • ยกหน้า ท้องขึ้น อย่าให้ หน้าท้องหย่อน หลัง เป็นแนวตรง เก็บซี่โครง

fore2

Step 2.
  • ส่งขาขวา เหยียดตึง ไปด้านหลัง ตั้งส้นเท้า
  • ดันฝ่ามือด้าน และ ข้อศอก แนบพื้น ดันหัวไหล่ขึ้น อย่าให้อกจม
  • ตามองลง ที่พื้น ตรง บริเวณ ช่องว่าง ระหว่าง ข้อศอก คอไม่ย่น เชยคางเล็กน้อย
  • ทรงตัวดีๆ กับ ตำแหน่งมือ และ หัวเข่าที่ติดพื้น ให้น้ำหนักอยู่ ตรงกลางลำตัว สูบสะดือสูง
  • หลังเป็น แนวตรง ไม่โค้ง หรือแอ่นหลัง
Forearm Plank
Forearm Plank
Step 3.
  • เหยียดขา ข้างซ้าย อีกข้างตรง ส่งไปด้านหลัง ขาทั้ง สองข้าง ขนานกัน ตั้งส้นเท้า จมูกเท้า ทั้งสอง ติดพื้น
  • สะโพก ทั้งสองฝั่ง ต้องขนาน ไม่เบี้ยว เก็บก้นกบ สูบสะดือสูง แขม่วหน้าท้อง
  • รักษาแนว กระดูก สันหลัง ให้ตรง คอไม่ย่น
  • เก็บหน้าท้อง ค้างท่าไว้ ประมาณ 5 ลมหายใจ เข้าออก

ข้อสังเกตุ

น้ำหนักตัว จะต้องไม่เอียง ไปฝั่งใด ฝั่งหนึ่ง จะต้องถ่าย น้ำหนัก ในอวัยวะ แต่ละจุด ที่แตะพื้น ให้มีนำหนัก ที่เท่ากัน หลังจะต้อง เป็นแนวตรง พยายาม ไม่ให้ก้นโด่ง เวลาอยู่ในท่า นานๆ จะรู้สึก เจ็บข้อศอก ก่อนที่จะ ฝึกท่านี้ ให้นำผ้าขนหนู มารอง เพื่อป้องกัน ข้อศอกได้

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

สำหรับ ผู้ที่เคยฝึก โยคะ ลองฝึก ท่านี้ โดยการ ยกเท้าทีละข้าง ความสูงระดับ สะโพก ปลายเท้าชี้ไป ด้านหลัง ค้างไว้ประมาณ 5 ลมหายใจ แล้วสลับไปทำอีกข้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Beginner โยคะอาสนะสำหรับการเปิดหัวไหล่และแผ่นอก

0

Beginnerโยคะอาสนะสำหรับการเปิดหัวไหล่และแผ่นอก

Beginner

Yoga Asana & exercise

ผู้ฝึกโยคะ ที่มี หัวไหล่ที่เปิด และ มีแผ่นอก ที่ยืดขยาย เป็นคุณสมบัติ ที่ร่างกาย ควรจะมี เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ผู้ที่ เริ่มฝึกโยคะ หรือ มีความสนใจ ในการเล่นโยคะ ควรที่จะ เพิ่มการบริหาร เพื่อให้ทำให้ หัวไหล่ และแผ่นอก นั้นได้ยืดขยาย ได้ดี เพราะว่า ในขั้นตอน ของ การฝึกโยคะ มีหลากหลาย อาสนะ ที่จะต้องอาศัย ผู้ฝึกที่มี หัวไหล่ที่เปิด และ มีแผ่นอก ที่ยืดขยาย ได้ดี เพื่อทำให้ การฝึกในอาสนะนั้น เข้าถึงท่าได้ ถูกต้อง

เมื่อร่างกาย มีความพร้อม เนื่องจากผู้ฝึก มีการเตรียมตัวที่ดี และรู้จัก ร่างกาย ของตัวเอง ได้ดี ความก้าวหน้า ในการฝึก จะมีการพัฒนา ไปอย่างมีคุณภาพ โดยปราศจาก การบาดเจ็บ และ จะทำให้ผู้ฝึก สามารถที่จะเข้าใจ และ ร่างกายก็จะได้ รับประโยชน์ จากการฝึกโยคะ ได้อย่างแท้จริง

แนบข้อศอกติดกำแพง
แนบข้อศอกติดกำแพง

แนบข้อศอกติดกำแพง

  • ท่าบริหารนี้ ใช้กำแพง เป็นตัวช่วย ในการเปิดหัวไหล่ และเปิดแผ่นอก ให้ยืดขยาย ให้มากขึ้น
  • ความห่าง ของระยะ ให้ใช้ประมาณ หนึ่งช่วงแขน โดยวัด จากปลายนิ้วมือ ที่ติดกำแพง เป็นตัวตั้งระยะ
  • ยืนแยกเท้า ทั้งสองออก ความกว้าง เท่าสะโพก
  • แอ่นหน้าอก ส่วนบน แนบกับกำแพง แนบบริเวณข้อต่อ หัวไหล่ ให้แนบชิด กับกำแพง ให้มากที่สุด
  • ข้อศอก ทั้งสองข้างงอ ในท่าพนม ส่งปลายนิ้วมือ ไปด้านหลัง 
  • เงยหน้าขึ้น หายใจให้รู้สึก สบายเวลา ที่อยู่ในท่า
อกติดกำแพง
อกติดกำแพง

แนบแผ่นอกติดกำแพง

  • ท่าบริหารนี้ มีลักษณะ คล้ายๆ ท่าด้านบน จุดแตกต่างคือ แขนทั้งสองข้าง ยืดเหยียดตรง ขึ้นไปด้านบน กำแพง เพื่อเพิ่ม การยืดของ หัวไหล่ แขน และข้อศอก ได้มากขึ้น
  • เทคนิค คล้ายๆกัน พยายาม แนบแผ่นอก และ ช่วงหัวไหล่ ให้ใกล้กับ กำแพงให้ได้ มากที่สุด เท่าที่ ทำได้
  • สามารถ เลื่อนตัวต่ำลง โดยการ ย่อหัวเข้าทั้งสองข้าง ทีละนิด เพื่อให้แผ่นอก และหัวไหล่ ใกล้กับกำแพง ได้ลึกขึ้น
  • สูบหน้าท้อง ประคอง อย่าให้เจ็บ บริเวณ หลังล่าง ออกจากท่าช้าๆ พร้อมกับ ลมหายใจ

Bird Dog Pose Step.1

Puppy Pose
Puppy Pose

Puppy Pose

  • เริ่มต้นด้วยท่า Table Pose
  • จากนั้น ยืดแขน ทั้งสองข้าง ไปด้านหน้า แขนตึง
  • คางแตะพื้น เงยหน้า แนบแผ่นอก ส่วนบนลง แตะลงที่พื้น 
  • แนบหัวไหล่ ทั้งสองข้าง ให้ใกล้กับพื้น ให้มากที่สุด
  • ส่งก้นขึ้นสูง เก็บซี่โครง อย่าให้ซี่โครงแอ่น 
  • กดปลายเท้า แนบพื้น หน้าแข้งทั้งสอง แนบติดพื้น หายใจเข้าออก สม่ำเสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง

Chaturanga

0

Beginner โยคะอาสนะในการสร้างหัวไหล่และแขนที่แข็งแรง

Chaturanga

Chaturanga Dandasana Pose

อาสนะนี้ เป็นอาสนะที่ ให้ ผลประโยชน์ ที่ดีกับกล้ามเนื้อ ในหลายๆส่วน ในร่างกาย ถ้าทำได้ ถูกต้อง เพราะการฝึก เพื่อ จะให้อยู่ในท่า ได้นานนั้น จำเป็นจะต้อง เกร็งทุกส่วน ในร่างกาย เพื่อให้สามารถอยู่ ในท่าได้ ซึ่งหลักๆ จะได้ผล ที่ดี และแข็งแรง ในส่วนของ หัวไหล่ และ ท่อนแขนส่วนบน เพราะจะ เป็นส่วน มี่รับน้ำหนัก ของร่างกาย ในสัดส่วนที่มาก กว่าส่วนอื่น

กล้ามเนื้อ หลักๆ ที่ทำงาน ก็คือ ท่อนแขน ด้านบนต้องรู้สึก ถึงแรงเกร็ง และบีบตัว เข้าหาลำตัว ด้านหลังของ เราจะต้อง รู้สึกเกร็ง และตรงเป็นแนวราบ ในตอนที่ ยุบข้อศอกลงไป เพื่อให้ตั้งฉาก ก้นจะต้องเกร็ง ไม่โด่งขึ้น สูบสะดือ เกร็งหน้าท้อง เพื่อพยุงหลัง หน้าอกไม่จม ขาทั้งสองทั้งมี ความแข็งแรง และมีแรง ในการส่งตัว และพยุงให้เป็นแนวตรง

อาสนะนี้ เมื่อฝึกเป็นประจำ จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงหัวไหล่ จะรู้สึกถึง ความแข็งแรง สามารถที่จะอยู่ ในอาสนะ ที่ฝึก ในเรื่องของ Arm Balance ได้ดี จะทำให้สามารถ เข้าท่าได้ ง่ายขึ้น เพราะมีหัวไหล่ ที่แข็งแรง สามารถรองรับ น้ำหนักเวลาฝึก อาสนะที่ต้องใช้ หัวไหล่ เพื่อรองรับ น้ำหนัก ในการทำ Balance

Step.1

Step 1.

  • เริ่มต้น จากท่า High Plank หัวไหล่ แขนและ ข้อมือ อยู่ในระดับ ตรงกัน ไม่งอข้อศอก ฝ่ามือดันพื้น ดันหัวไหล่ ห่างใบหู
  • ต้อง เกร็งหน้าท้อง สูบสะดือสูง ขมิบก้น กดก้นกบลง เกร็งขา ทั้งสองข้าง
  • หลังตรง เปรียบเสมือน มีไม้กระดานวาง อยู่บนหลัง

Chaturanga Step.1

Step 2.

  • อยู่ในท่า High Plank ดึงกล้ามเนื้อ ทุกส่วนของคุณ เข้าสู่กึ่งกลาง ของร่างกาย
  • ถ่ายน้ำหนักตัว ไปด้านหน้า ที่ฝ่ามือ และแขนทั้งสองข้าง จนเหลือแต่ ปลายเท้าที่ ติดติดพื้น
  • สายตามองเลย ปลายนิ้วมือ ไปหนึ่งฝ่ามือ
  • เกร็งหน้าท้อง ประคองหลัง สูบสะดือสูง

Chaturanga Asana

Step 3.

  • หนีบหัวไหล ทั้งสองข้าง เข้าหาลำตัว
  • งอข้อศอกช้าๆ เลื่อนตัวต่ำ ลงจน ข้อศอกอยู่แนวเดียว กับหัวไหล่ จนตั้งฉาก ในแนว 90 องศา
  • เกร็งหน้าท้องเสมอ สูบสะดือ หลังตรงเป็นไม้กระดาน หลังคอไม่ย่น
  • ขมิบก้น ก้นไม่โด่ง ขาทั้งสองข้าง เหยียดตึง

Step.4

Step 4.

  • เมื่อข้อศอก และหัวไหล่ อยู่ใน แนวเดียวกันแล้ว ค้างท่าไว้ นานเท่าที่ สามารถ ค้างท่าไว้ได้
  • คลายออก จากท่า โดยใช้ท่า Upward Facing Dog  หายใจเข้า
  • หรือ นอนราบลง ที่พื้น พร้อมลงหายใจออก ผ่อนคลาย

ข้อสังเกตุ

การค้างท่า ในช่วงเริ่มต้น ของการฝึก อาจจะทำเพียงแค่  2-3 วินาที เพื่อป้องกัน อาการบาดเจ็บ ที่หัวไหล่ หรือข้อมือ ในช่วงแรกๆ อาจจะใช้ อุปกรณ์ คือ ปล็อก มาเป็นตัว Support ในตำแหน่งของหัวไหล่ ทั้งสองข้าง เพื่อ ให้ร่างกายรับรู้ การปรับสมดุล ในเรื่องการ วางน้ำหนัก เพื่อเป็นการฝึก หัวไหล่ให้รู้จัก กับน้ำหนัก และ การวางตำแหน่ง ที่ถูกต้อง เรียนรู้ การเก็บสะบัก และซี่โครง บริเวณลำตัว ในทุกๆส่วน ให้กระชับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Dolphin Pose

0

Beginner โยคะอาสนะในการสร้างหัวไหล่และแขนที่แข็งแรง

Dolphin Pose

Dolphin Pose (Catur Svanasana)

เป็นท่าที่ใช้ บริหาร เพื่อเพิ่มกำลัง ต้นแขนและหัวไหล่ ให้แข็งแรง  และ ยังช่วยจัดระเบียบ กระดูกสันหลังให้เป็นแนวตรง ตลอดไปจนถึง เส้นใต้ขา ให้ได้ถูกยืดออก เป็นเส้นตรง ไม่ทำให้เกิดภาวะ เส้นยึด หรือเป็นคลายช่วยคลายกล้ามเนื้อ ด้านหลังลงไป ให้ได้รู้สึกผ่อนคลาย เวลาที่ได้ออกจากท่าแล้ว

ลักษณะของอาสนะนี้ จะมีการทำท่า คล้ายกับท่า Downward Facing Dog  แตกต่างกันเพียง แต่ต้องวางศอก ที่พื้นแทนมือ ทั้งสองข้าง ท่านี้จะทำให้ไหล่ได้ยืดออกอย่างเต็มที่ ถ้าจัดวางท่าได้อย่างถูกต้อง และยังช่วย ในเรื่อง การไหลเวียนของเลือด ที่จะส่งลง มาเลี้ยง ที่ศีรษะเนื่องจาก ลักษณะของท่า ศรีษะจะอยู่ ต่ำกว่าหัวใจ ดังนั้นเลือดจึงไหลเวียน มาสู่ตำแหน่ง ศรีษะที่อยู่ต่ำได้มาก

อีกอย่าง ลักษณะของขา ในตำแหน่งที่ยืน การทำท่าแยกขา ให้พอดีกับ ตำแหน่งสะโพก จะยิ่งช่วยสร้าง ความแข็งแรง ของต้นขา ทั้งสองข้าง เพราะกล้ามเนื้อ ทั้งสองข้าง จะต้องเกร็ง และบีบต้นขาใน เข้าหากัน เพื่อส่งแนว เส้นกล้ามเนื้อ ด้านหลังขา ตั้งแต่ ก้นลงมาถึงปลายเท้า ให้เป็นเส้นตรง  ดังนั้น กล้ามเนื้อ จะแข็งแกร่งมากขึ้น หากฝึก เป็นประจำ

Dolphin Pose Step.1

Step 1.

  • นั่งคุกเข่าลงที่พื้น ความกว้าง ของหัวเข่า ให้ตรงกับ ความกว้าง ของสะโพก
  • ตั้งส้นเท้า จมูกเท้า วางที่พื้น
  • วางแขนลง ทั้งสองข้าง ลงบนพื้น งอข้อศอก ความกว้าง ให้พอดี กับหัวไหล่
  • ประสานมือ ทั้งสอง ข้างเข้าหากัน
  • สายตา มองตรงกลาง ระหว่างมือ คอไม่ย่น
Dolphin Pose
Dolphin Pose

Step 2.

  • ตั้งส้นเท้า ยกหัวเข่าขึ้น ค่อยเดินเท้า เข้ามาหาข้อศอก ใกล้ที่สุด เท่าที่ืำได้
  • ถ้ารู้สึกตึงขา จนเกินไป ให้งอหัวเข่าได้
  • ยืดกระดูก เชิงกรานออก แล้วกด นำ้หนักไปที่หัวเหน่า
  • หลังตรง ส่งกำลังจาก ลำแขน ส่งขึ้นหาสะโพก
  • ยกสะโพก ส่งขึ้นหา เพดาน เป็น สามเหลี่ยม

Dolphin Pose

Step 3.

  • ถ่ายนำหนัก ลงไปที่ปลายแขน ช่วงล่าง
  • ดันหัวไหล่ ไปด้านหลัง อย่าให้อกจม ระวังอย่าให้ หลังแอ่น แขม่วท้อง สูบสะดือสูง ติดกับ กระดูกสันหลัง
  • ศรีษะ อยู่ระดับเดียวกัน กับต้นแขน
  • ส่งขา ทั้งสองข้างตึง ถ้าทำได้  ค้างอยู่ในท่า ประมาณ 5 ลมหายใจ เข้าออก
  • ออกจากท่าโดย การวาง หัวเข่าลง เหมือนท่าเริ่มต้น

 

ข้อสังเกตุ

วิธีการฝึก ของอาสนะนี้ ถ้าฝึกครั้งแรก แนะนำควรที่จะ งอขาก่อน เพื่อไม่ให้หลังโค้ง เพื่อที่ทำให้ หัวไหล่ ได้รับการบริหาร อย่างเต็มที่  เวลาอยู่ในท่า ระหว่างฝึก อาจจะหายใจลำบาหน่อย แต่ถ้าอย่าลืมหายใจ ให้คงที่และสม่ำเสมอ  ถ้ารู้สึก เจ็ยบริเวณ ข้อศอก หรือลำแขนส่วนล่าง ให้ใช้ผาขนหนู มารองเพื่อ ป้องกัน การเจ็บข้อศอกได้ พยามเน้น ให้กระดูกสันหลัง เป็นแนวอยู่เสมอ

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

เมื่อผู้ฝึก สามารถฝึก ให้อยู่ในท่า ในลักษณะ ที่ขาทั้งสอง ยืดเหยียดจนตึง และมีความมั่นคง เวลาอยู่ในท่า ให้ลองฝึก โดยเริ่มจากลมหายใจเข้า ยกเท้าชี้ขึ้นหา เพดาน ขาตึงไม่งอ ลมหายใจออก ลดขาลง ชี้เท้าไปด้านข้าง กระดกข้อเท้า สะโพก ทั้งสองข้างเป็นแนวตรง ไม่เบี้ยว ความสูงระดับสะโพก เป็นแนว 90 องศา ค้างอยู่ในท่า 5 ลมหายใจเข้าออก แล้วจึงสลับ ไปทำอีกข้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Beginner โยคะ อาสนะในการสร้าง หัวไหล่ และ แขน ที่แข็งแรง

0

Beginnerโยคะอาสนะในการสร้างหัวไหล่และแขนที่แข็งแรง

Beginner โยคะ หัวไหล่ แขน

Yoga Asana & exercise

สำหรับผู้ ที่สนใจใน การฝึก โยคะ เมื่อเริ่มฝึก ไปได้ซักระยะ จะเริ่มมี ความสนใจในอาสนะโยคะ ที่เกี่ยวข้องกับ Arm Balance ที่เป็นอาสนะ ที่ใช้การทรงตัว ที่ใช้หัวไหล่ และแขน ทั้งสองข้าง เป็นจุดรองรับ น้ำหนักเพื่อเล่นกับ การทรงตัว มันดูท้าทาย และ น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อ เห็นเพื่อนที่ร่วม ฝึกด้วยกันในคลาส สามารถทำได้

ร่างกายโดยธรรมชาติ ขาทั้งสองข้าง จะเป็นอวัยวะที่ เอาไว้รองรับ น้ำหนัก ของร่างกายใน ทุกๆวัน ในการทำ กิจวัตรต่างๆ แต่การฝึกอาสนะที่เราเรียกว่า Arm Balance กลับตรง กันข้าม เพราะ จะไม่ใช่ขา ที่จะใช้รองรับ น้ำหนัก แต่จะเป็น หัวไหล่ และ แขน ทั้งสองข้างที่จะต้องรองรับ น้ำหนักแทน

ดังนั้น ถ้าชอบหรือ สนใจ ในอาสนะ ที่เกี่ยวข้องกับ Arm Balance ต้องฝึกให้ หัวไหล่ และ แขน มีความแข็งแรง

เทคนิค ในการฝึก ของแต่ละคน อาจจะ แตกต่างกัน แต่เทคนิคที่ ไม่ยากและไม่ง่าย เกินไปในการเตรียม ความพร้อมของ ร่างกาย โดยเฉพาะ หัวไหล่ และ แขน ก็คือ ต้องใช้การฝึก อาสนะ หรือ ท่าออกกำลังกาย ที่ช่วยฝึก หัวไหล่ และ แขน นั่นเอง

อาสนะ และท่าบริหาร ที่เตรียม มาให้ลองฝึก ด้านล่างนั้น ผู้เขียนเอง ได้นำมาฝึก กับตัวเอง เป็นประจำ แล้วได้ผลแต่ต้องฝึกทุกวัน

การฝึกบ่อยๆ ให้เป็น กิจวัตร จะยิ่งเห็นผล เร็วขึ้น แต่ระวัง อย่าหักโหม จนเกินไป เราฝึก เพื่อให้ร่างกาย อวัยวะและกล้ามเนื้อ บริเวณนั้นๆ ได้จดจำ และ พัฒนาตัวของมันเอง ให้แข็งแรงขึ้น ดังนั้นไม่ต้อง กดดัน ตัวเองมาก จนเกินไป

เพียงแค่ฝึกเป็นประจำ ทีละเล็ก ทีละน้อย เริ่มต้นอาจจะอยู่ในท่าฝึก ไม่ได้นาน ก็อยู่ให้นานที่สุด เท่าที่ร่างกายของเรานั้น รับได้ เมื่อร่างกายพร้อม Arm Balance ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

Dolphin Pose

Dolphin  Pose

 อธิบายเพิ่มเติม

Chaturanga Asana

Chaturanga Pose

อธิบายเพิ่มเติม

Forearm Plank
Forearm Plank

Forearm Plank

อธิบายเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Boat Pose

0

Beginner โยคะอาสนะในการสร้างหน้าท้องที่แข็งแรง

Boat Pose (Paripurna Navasana)

Boat Pose (Paripurna Navasana)

เป็นอีกหนึ่ง อาสนะที่ เหมาะสำหรับ การบริหาร จัดเตรียม ร่างกายในส่วนของ แกนกลางลำตัว และ หน้าท้อง ให้มีความแข็งแรง ลักษณะของอาสนะ จะเน้นการฝึก ที่เกี่ยวกับ การทรงตัว ที่ต้านทานกับ แรงโน้มถ่วง ต่อต้าน กับการปรับสมดุล ของน้ำหนักตัว วิธีการจัดการ กับอวัยวะของร่างกาย ที่ต้องถูกยกขึ้น จากพื้น

โดยเฉพาะ เวลาเข้าท่า ในส่วน ของน้ำหนัก ทั้งหมด จะต้อง ถูกถ่ายลง ที่จุดเดียว คือ กระดูกรองนั่ง ส่วนอวัยวะทั้งหมด ของร่างกาย จะถูกยกขึ้น ลักษณะคล้าย สามเหลี่ยม หรือ ตัว V ที่มีฐานมาจาก กระดูกรองนั่ง 

โดยมีจุดแกนกลาง หรือ หน้าท้อง เป็นตัวช่วยดึง และควบคุม การทรงตัว ไม่ให้หลุด ออกจากท่า ถ้า สังเกตุจากรูป อาสนะ ดูเหมือน จะง่ายๆ ไม่น่าที่จะต้อง ใช้แรงหรือ ท่าดูไม่ยาก เท่าไหร่ ถ้าเปรียบเทียบ กับอาสนะอื่นๆ ในโยคะ แต่ถ้าได้ลองฝึก จะสามารถรู้ ได้เลยว่า เป็นอาสนะนึง ที่ท้าทาย ต่อการฝึก และ ต้องใช้สมาธิ เพื่อช่วย ในการทรงตัว

Boat Step. 1

Step 1.

  • นั่งลงบนพื้น สัมผัส กระดูกรองนั่ง หลังตรง คอไม่ย่น คางเป็นแนวตรง ไม่แหงนหน้า
  • ชันหัวเข่า ความกว้างเท่า สะโพก
  • เท้าทั้งสองข้าง ติดพื้น
  • เก็บหน้าท้อง สูบสะดือ
  • ส่ง แขนทั้งสองข้าง ตรงไป ข้างหน้า หันฝ่ามือ เข้าหากัน
  • กด ไหล่ทั้งสองข้าง ห่างจาก ใบหู

Boat Step. 2

Step 2.

  • เอนตัว ไปด้านหลัง จนเท้า ลอยขึ้น จากพื้น
  • หลังตรง ไม่โค้ง แอ่นอกขึ้น มองตรง ไปด้านหน้า ไม่ห่อไหล่
  • ขายังคงงอ ส่งปลายเท้า ขนาน ขึ้นตั้งฉากขนาน กับหัวเข่า หนีบขาด้าน ในเข้าหากัน
  • หลัง จะเริ่มงอตัว โดยอัตโนมัติ ให้ พยายาม ดันหน้าอกขึ้น เกร็งหน้าท้อง พยุงหลังไม่ให้งอ

Boat Step. 3.1

Step 3.

  • เมื่อเริ่มทรงตัวได้ ลองเหยียดขา ตรงประมาณ 45 องศา
  • ปลายเท้า อยู่ระดับสายตา สายตา อยู่ระดับปลายเท้า
  • เกร็งหน้าท้อง ประคองหลังไว้ สูบสะดือ
  • ระวัง อย่าให้หลังงอ พยายามพยุง หลังให้ตั้งตรง
  • ค้างอยู่ในท่า ประมาณ 5 ลมหายใจ เข้าออก จึงนำ เท้าลงเหมือน ตอนเริ่มต้น

ข้อสังเกต

ผู้ที่ฝึกท่านี้ จะต้องใช้การ แขม่วท้อง สูบสะดือ หลังตรง ไม่โค้งงอ และยืดอก ไม่ให้อกจม และถ่วงน้ำหนัก ไปด้านหลัง จะต้องเกร็ง ที่หน้าท้องเสมอ เพื่อใช้ในการพยุง น้ำหนักตัว ให้ลงที่ กระดูกกรองนั่ง ถ้ารู้สึกว่า เจ็บต้นขาบน ตรงข้อต่อสะโพก ให้เลือกใช้ การงอเข่า ลดขาลง ขนาน เป็นแนว ตั้งฉากก็ได้ ก็เห็น ผลเช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

สำหรับ ผู้ที่ฝีกโยคะ มานาน จนเมื่อ สามารถ ที่จะยืดขา ทั้งสองข้าง ได้ตรง สามารถจัดการ ควมคุมการทรงตัว ให้อยู่ในท่าได้ดี ไม่ล้ม และสามารถอยู่ในท่า ได้นาน และถูกต้อง ลองท้าทาย ตัวเอง เพิ่มโดยการ เข้าท่า ที่ฝึกด้วยการ เอื้อมมือ ไปจับนิ้วโป้งเท้า ทั้งสองข้าง ขาทั้งสองข้างตึง ไม่งอขา ก็จะยิ่งเพิ่ม ความยากในเรื่อง ของการฝึกการทรงตัว อีกระดับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Beginner โยคะ อาสนะในการสร้าง หน้าท้อง ที่แข็งแรง

0

Beginnerโยคะอาสนะในการสร้างหน้าท้องที่แข็งแรง

Beginner โยคะ หน้าท้อง

Yoga Asana & exercise

การฝึก ร่างกาย ให้มี หน้าท้อง และ แกนกลางลำตัว ที่แข็งแรง เป็นจุดแข็ง สำหรับ การฝึกอาสนะ ที่ต้องควบคุม ความสมดุล แรงโน้มถ่วง (Balancing Yoga Pose) ในการอยู่ ในท่า ซึ่งถ้าผู้ฝึก มีจุดแข็งตรงนี้ แล้ว จะทำให้ การเข้าท่า ไม่ยาก จนเกินไป และยัง จะส่งผลให้ การอยู่ในท่า ได้นานขึ้น และไม่ทำให้เกิด อาการเกร็ง  เวลาที่ฝึก โยคะ เพราะอาการเกร็ง จะทำให้ กล้ามเนื้อ เกิดการ บีบรัดมากจนเกินไป บางครั้งอาจจะ ทำให้ เกิดตะคริวได้ หรือ เมื่อฝึก เสร็จแล้ว อาจทำให้เกิด อาการเจ็บปวด กล้ามเนื้อ ที่เกิดจากการ เกร็งที่มาก จนเกินไป ในระหว่าง ที่ฝึก

Beginner หรือ ผู้ที่เพิ่งเริ่ม ที่จะเข้าสู่ วงการ โยคะ แนะนำ เป็นอย่างยิ่ง ว่าควรจะ ฝึกท่าบริหาร ที่เล่นกับ หน้าท้อง อย่างสม่ำเสมอ  ให้หน้าท้อง หรือบริเวณ แกนกลาง ของลำตัว มีความแข็งแรง อาจจะใช้ ท่าบริหาร ที่เป็น อาสนะ ของโยคะ หรือ ท่า กายบริหาร ที่เป็นการ ออกกำลังกาย โดยทั่วไป ที่ใช้เน้น บริหาร หน้าท้อง เป็นหลักใช้ ฝึกแทรกเข้าไป อยู่ในกิจวัตร การ ออกกำลังกาย ด้วยก็จะยิ่งดี เพื่อเป็นการฝึก กล้ามเนื้อ ที่หน้าท้อง ให้มี ความแข็งแรง

แม้กระทั่ง ผู้ที่ฝึก โยคะ มานาน บางคน ก็ยังประสบ กับปัญหา การฝึก ในท่าที่ ต้องเล่นกับ สมดุล และ แรงโน้มถ่วง ของร่างกาย เนื่องจากยัง สัมผัส ไม่ได้ว่า ควรที่จะ ต้องปรับ หรือ ใช้ส่วนไหน ในร่างกาย เพื่อให้ ได้เข้าท่า ได้ถูกต้อง  อาสนะ ที่ฝึกเรื่อง การสมดุลของร่างกาย หัวใจคือ แกนกลางลำตัว ที่แข็งแรง  หน้าท้อง ที่แข็งแรง เป็นจุดควบคุม ที่ทำให้ อยู่ในท่าได้นิ่ง และ มั่นคงขึ้น

Bird Dog Pose

Bird Dog Pose (Parsva Balasana)

อธิบายเพิ่มเติม

Boat Step. 3.1

Boat Pose

(Paripurna Navasana)

อธิบายเพิ่มเติม

hand to toe 2

Hand to toe touches

อธิบายเพิ่มเติม

Bicycle Crunch 2

Bicycle Crunch

อธิบายเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bird Dog Pose

0

Beginner โยคะอาสนะ ในการสร้าง หน้าท้องที่แข็งแรง

Bird Dog Pose

Bird Dog Pose (Parsva Balasana)

เป็นท่าที่ ใช้ใน การฝึกร่างกาย เพื่อเป็นการปรับสมดุล และ เพื่อเพิ่ม ความแข็งแรง ให้กับ ช่วงแกนกลาง ของลำตัว ซึ่งถือว่า เป็นการ สร้างพื้นฐาน หน้าท้อง ที่แข็งแรง ให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติ ที่จำเป็น สำหรับผู้ฝึกโยคะ เบื้องต้น เพื่อ เป็นการเตรียม ความพร้อม ให้กับร่างกาย ให้มีแกนกลาง และหน้าท้อง ที่แข็งแรง

ถ้าผู้ฝึกมี แกนกลางลำตัว ที่แข็งแรง และมี หน้าท้อง ที่แข็งแรง จะทำให้ การเข้าถึง อาสนะแต่ละ อาสนะ ได้ลึกขึ้น ง่ายขึ้น ทั้งยังนำไป ปรับช่วย ในเรื่องการทรงตัว ให้อยู่ในท่า ได้อย่างมั่นคง และเปิดร่างกาย ได้อย่างเต็มที่ และ อยู่ในท่าได้นาน โดยที่ไม่ สูญเสียการทรงตัว รวมถึงลดการบาดเจ็บ ในการฝึก โยคะ ได้ด้วย

ในหลายๆอาสนะ ในการฝึก แกนกลางของลำตัว จะเป็นจุดศูนย์กลาง ที่ทำให้ ผู้ฝึกสามารถ ฝึกได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เหนื่อยง่าย เพราะเข้าใจหลัก ในการควบคุม และจัดระเบียบร่างกายได้ดี

Bird Dog Pose Step.1

Step 1.
  • คุกเข่า แยกหัวเข่า ทั้งสองออก ความกว้างพอดีกับ ช่วงสะโพก หัวเข่ากับ สะโพกตรงกัน (Table Pose)
  • ข้อมือ ตรงกับหัวไหล่ ไม่งอแขน
  • ตั้งส้นเท้า ทั้งสองข้าง จมูกเท้าติดพื้น
  • ลักษณะของท่า จะคล้ายๆท่าคลาน
  • ยกหน้าท้องขึ้น อย่าให้ หน้าท้องหย่อน หลัง เป็นแนวตรง

Bird Dog Pose Step.2

Step 2.
  • ฝึก ยกแขนหนึ่งข้าง ตรงส่งไปด้านหน้า ระดับเดียว กับหัวไหล่ ไม่งอข้อศอก
  • ดันฝ่ามือด้าน ที่ติดพื้นขึ้น อย่าให้อกจม
  • ตามองลงที่พื้น เลยนิ้วมือ ไปข้างหน้า หนุ่งฝ่ามือ คอไม่ย่น
  • ทรงตัวดีๆ กับ ตำแหน่งมือ และ หัวเข่าที่ติดพื้น ให้น้ำหนักอยู่ ตรงกลางลำตัว สูบสะดือสูง
  • หลังเป็นแนวตรง ไม่โค้ง หรือแอ่นหลัง

Bird Dog Pose Step.3

Step 3.
  • ฝึกยกขา เหยียดตรง ขึ้นสูงระดับสะโพก ส่งไปข้างหลัง กระดกข้อเท้า ปลายเท้าชี้ลงพื้น
  • สะโพกทั้งสองฝั่ง ต้องขนาน ไม่เบี้ยว
  • รักษาแนว กระดูกสันหลัง ให้ตรง คอไม่ย่น
  • เก็บหน้าท้อง ค้างท่าไว้ประมาณ 5 ลมหายใจ เข้าออก
Bird Dog Pose
Bird Dog Pose
Step 4.
  • ยกขาขวา เหยียดตรง ขึ้นสูงระดับ สะโพก ออกแรง ส่งไปข้างหลัง กระดกข้อเท้า ส่งปลายเท้าชี้ ลงพื้น
  • ส่งแขนซ้าย เหยียดตรง ไปด้านหน้า ระดับหัวไหล่
  • รักษาแนว กระดูกสันหลัง ให้ตรง สูบสะดือสูง
  • เก็บ หน้าท้อง ค้างท่าไ ว้ประมาณ 5 ลมหายใจ
  • ออกจากท่า สลับไปทำอีกด้าน

ข้อสังเกตุ

น้ำหนักตัว จะต้องไม่เอียง ไปฝั่งใด ฝั่งหนึ่ง จะต้องถ่ายน้ำหนัก ในอวัยวะ แต่ละจุด ที่แตะพื้น ให้มีนำหนัก ที่เท่ากัน ถ้าผู้ฝึกมี ปัญหาเรื่อง หัวเข่า ให้หาอุปกรณ์ มาช่วยเช่น  ผ้าขนหนู หรือ พับเสื่อโยคะ ซ้อนกัน เพื่อป้องกัน หัวเข่า

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

สำหรับ ผู้ที่เคยฝึก โยคะ ให้เพิ่ม ระดับในการทรงตัว โดยเริ่มจากการหายใจเข้าส่งแขนไปด้านหน้าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งส่งขาและชี้ปลายเท้าไปด้านหลัง แอ่นหลังเงยหน้ามองตามมือ หายใจออก งอข้อศอก และ งอหัวเข่าชนกัน พร้อมกับโก่งหลัง สูบสะดือสูง ทำซ้ำประมาณ 5 Set แล้วสลับไปทำอีกข้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง

คำพูด 4 ประเภทที่ควรระวัง

0

สำนวนสุภาษิตไทย ได้มีการกล่าวถึง สาระสำคัญ และแนะแนวทาง ของการใช้ คำพูด ไว้ว่า ” พูดดีเป็นศรีแก่ปาก ” หรือ ” ปลาหมอตายเพราะปาก ” ความหมายของสุภาษิตทั้ง 2 ประโยคนี้ กล่าวโดยรวม ถึงความสำคัญ ในการใช้คำพูด ที่สมควรที่ จะต้องระมัดระวัง ทุกครั้งเวลาที่จะ ใช้คำพูด

บางครั้ง คำพูด ก็สร้างสิ่งที่ดีๆ และน่าประทับใจ กับตัวเอง และคนรอบข้าง ได้เป็นอย่างดี มีประโยชน์ ถ้าเราใช้ได้ถูกต้อง และถูกที่ถูกทาง ถูกกาละเทศะ แต่บางครั้ง ก็สามารถสร้างปัญหา ให้เราได้เช่นกัน ถ้าเราใช้คำพูดโดย ที่ไม่ให้ความสำคัญ

คำพูดบางครั้ง เปรียบเสมือนอาวุธ ที่ใช้ในการต่อสู้ เพื่อสร้างความสำเร็จ อย่างเช่น การพูดต่อรองในด้านธุรกิจ คนที่มีทักษะในการพูดที่ดี รู้จักคิดวางแผนในการพูดได้ดี หรือการนำเสนอที่น่าสนใจ ย่อมมีโอกาศที่ดีกว่าเสมอ ที่จะเป็นต่อในการเจรจา

หรือแม้กระทั่ง การใช้คำพูดเพื่อ การจัดการกับปัญหา กับสถานการณ์เลวร้าย ที่ต้องจัดการ ถ้ารู้จักใช้คำพูดที่ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะไม่บานปลาย และสามารถผ่านพ้นไปได้

ข้อควรระวัง ในการใช้คำพูด

  1. คำพูดที่ พูดโดยไม่คิด พฤติกรรมแบบนี้ สำคัญมาก คนเราถ้าพูดโดยที่ ไม่คิดอะไรเลย มันสร้างผลกระทบ หรือความเสียหายได้เยอะมาก เพราะคำพูดที่ออกมา โดยที่ไม่ได้คิด หรือ ไม่ได้ผ่านการกลั่นกลอง ก็เท่ากับว่า เป็นคำพูดที่ พูดออกมาโดย ไม่คำนึงว่า จะส่งผลกระทบถึง ใครทั้งสิ้น
    ประโยค หรือคำพูดที่ออกมา บางครั้งคนพูด ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองนั้น พูดอะไรออกมา แต่คนที่เป็นฝ่ายฟัง จะได้ยิน และรับรู้ทุกคำ ทุกประโยค ที่ออกมาจากปาก ของคนที่พูด
  2. คำพูดที่ พูดออกมา ด้วยความไม่จริงใจ หรือไม่ใส่ใจ ลักษณะคำพูดแบบนี้ เป็นคำพูดที่ ผ่านกระบวนการคิด แต่ว่าเป็นความคิดที่ไม่ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญ กรณีแบบนี้ ผู้ฟังจะสามารถ สัมผัสได้ถึง ความสำคัญ ของเนื้อความ ของคำพูด ที่ส่งออกมาว่า ผู้พูดรู้สึกเป็นอย่างไร ใส่ใจมั้ย หรือสนใจในสิ่งที่ กำลังพูด หรือแลกเปลี่ยน ข้อมูลด้วยกันหรือไม่การใช้คำพูด
  3. คำพูดที่ พูดจาเสียดสี เปรียบเปรย กระแทก แดกดัน เป็นคำพูดที่ต้องระวัง เป็นคำพูดที่ ไม่สมควรที่จะพูด เพราะว่า คำพูดในลักษณะนี้ ไม่ได้สร้าง ให้เกิดความสร้างสรรค์ มีแต่สร้างความรู้สึกที่แย่ สำหรับคนที่ถูกกล่าวถึง หรือแม้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เอง ก็คงไม่มีใครที่อยากจะฟัง หรือได้ยินคำพูดในลักษณะนี้ เป็นคำพูดที่บ่อนทอนจิตใจ เป็นคำพูดที่แวดล้อมไปด้วยพลังงานด้านลบ ดึงดูดแต่สิ่งแย่ๆ
  4. คำพูดที่ พูดจาปั้นน้ำเป็นตัว คำพูดที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยที่ไม่มีข้อมูล ของความเป็นจริง พยายามพูดเพื่อโน้มน้าว หรือ เพื่อให้คนอื่นที่ฟังนั้นเข้าใจผิด เป็นไปอย่างที่ตนเองพูด เรื่องราวต่างๆ ถูกสร้างขึ้น บิดเบือนความเป็นจริง บางครั้งนำมาซึ่งความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้าเจอคนที่ ชอบพูดในลักษณะนี้ต้องระมัดระวัง และต้องฟังแบบ มีวิจารณญาณ เพื่อทำให้ไม่ถูกหลอก ให้เชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ใช่ความจริง

บทส่งท้าย

อย่างไรก็ดี เราจะต้องคำนึง และ ระลึกอยู่เสมอว่า คำพูดที่ออกจากปาก ของเราทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น คำพูดในแบบไหน ตัวเราเอง จะเป็นผู้รับผิดชอบ ในคำพูดของเรา โดยทันที ในทุกๆครั้งที่ได้ พูดออกไป ทุกประโยค ดังนั้นทุกคำพูด ที่หลุดออกจากปาก ควรจะต้องมีการ ผ่านกระบวนการคิดก่อน ที่จะตัดสินใจพูดออกไป

ในทุกประโยค ของคำพูด มันจะเป็น ตัวบ่งชี้ว่า คุณที่เป็นคนพูดนั้น มีลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร มีกระบวนการทาง ความคิดเป็นอย่างไร การศึกษาที่ได้รับ ได้พัฒนาคุณมาได้ ไกลแค่ไหน สภาพสังคม ที่คุณได้เติบโตขึ้นมานั้น เป็นอย่างไร

หรือแม้กระทั่ง การอบรมสั่งสอน จากครอบครัว ที่ถือว่าเป็น พื้นฐานสำคัญว่า ได้ถูกปลูกฝังกันมา เป็นอย่างไร มันส่งผลกระทบได้ในวงกว้าง ถึงมุมมองที่คุณนั้น จะได้รับจากคน ในสังคมที่ อยู่แวดล้อมตัวคุณเอง  คงไม่มีใคร ที่ต้องการให้ถูกมอง ไปในรูปแบบที่ไม่ดี หรือไม่น่าคบหา จากการแสดงออก ในเรื่องคำพูด ดังนั้นควรที่จะคิดให้ดีทุกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจพูดอะไรออกไป เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

พลังความเชื่อ คือพลังงานที่ใช้นำทางของชีวิต

0

พลังความเชื่อ เป็นพลังงานที่มี จุดเชื่อมโยงกับการกระทำ ที่จะทำให้ชีวิต ได้สร้างการขับเคลื่อน สร้างแรงผลักดัน หรือกำลังใจที่เข้มแข็ง ความเชื่อเป็นพลังงาน ตัวแรกที่จะทำให้ การเดินทางตามเป้าหมาย หรือ การกระทำเพื่อ ให้ได้ในสิ่งที่ตัวเอง ต้องการนั้นประสบกับ ความสำเร็จ หรือ ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

การตั้งเป้าหมาย หรือ ปลายทาง ของความสำเร็จ ในชีวิต ให้เริ่มต้น ด้วยความเชื่อ เป็นอันดับแรก ว่าเราเชื่อในสิ่งที่เรา ตั้งเป้าหมายไว้ เราเชื่อว่า เราจะต้องประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่เราต้องการแน่นอน ต้องมีความเชื่อ เพื่อสร้างพลังงานดิบในตัว เป็นแรงผลักให้เกิดการกระทำ ที่หนักแน่นและมั่นคง

ความเชื่อจากภายใน

พลังความเชื่อ แบบไหน ที่สร้างความสำเร็จใน แต่ละด้านของชีวิต

พลังความเชื่อมั่น ในตัวตนของตัวเอง  เป็นความเชื่อจะช่วยส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ในการดำเนินชีวิต ในสิ่งที่เรามีความต้องการ คนเราทุกคนเกิดมา ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ หรือ สามารถที่จะทำอะไร ทุกอย่างได้ตั้งแต่แรก ทุกคนจำเป็น จะต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง ตลอดเวลา

ทุกอย่างคือ การเรียนรู้ คือการพัฒนา สิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ไม่มีอะไรที่เรามีความตั้งใจ ที่จะทำอย่างตั้งใจ อย่างแท้จริงแล้วจะทำไม่ได้ ถ้าเรามีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเรา ว่าเราทำได้ พลังของความเชื่อมั่น ที่เราต้องสร้างขึ้นมา ให้กับตัวเราเท่านั้น ที่จะพาให้เราก้าวผ่านต่อ สถานการณ์ต่างๆ ที่ในบางครั้ง อาจจะดูเหมือนยาก และซับซ้อนในชีวิต

พลังความเชื่อมั่น ในพลังงานความคิดด้านบวก ( Positive Thinking ) การเชื่อมั่นในความคิด ที่มีมุมมองของความเชื่อ ในด้านบวก จะช่วยส่งเสริม ให้มีพลังงานดีๆ เข้ามาเกี่ยว ข้องกับวิถีการใช้ชีวิต ยิ่งเรามามีความคิด ที่เป็นด้านบวกมาก เท่าไหร่ จะยิ่งดึงดูด พลังงานดีๆ จะดึงดูด และนำพาคนดีๆ และสิ่งที่ดีๆ ส่งกลับมาหาเรา ได้มากเท่านั้น

คิดบวก

ทุกอย่างย่อม ดีขึ้นเสมอ ถ้าเราเชื่อแบบนี้ เพราะถ้าเรา มีความเชื่อมั่น และเชื่อในเรื่อง ที่เป็นด้านบวก หรือ คิดและมีความเชื่อในเรื่องที่ เป็นสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะต้องพบเจอ เรื่องที่มันแย่ หรือเลวร้ายขนาดไหน แต่เรามีความมุ่งมั่น และเชื่อว่า มันจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เพระาในสถานการณ์ที่เลวร้าย ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ย่อมมีสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้น ได้อยู่เสมอ

พลังความเชื่อ ในความดี และ ความถูกต้อง ความเชื่อใน เรื่องการทำความดี และ การทำสิ่งที่ถูกต้อง เป็นพลังงาน ที่สร้างพลัง ความน่าอยู่ในสังคม เพราะการทำความดี และ สิ่งที่ถูกต้องในสังคม จะเป็นการสร้าง พลังงานความเชื่อ ที่เป็นประโยชน์ไม่เฉพาะกับตัวเราเองเท่านั้น คนอื่นๆที่อยู่ ร่วมกันในสังคม ก็จะด้รับพลังงานดีๆ เหล่านี้เช่นกัน

ความสำเร็จ ที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งที่ต้องการ ความร่วมมือ และความสามัคคี จากหลายๆคน ในสังคม ดังนั้น การสร้างบรรยากาศที่ดี ในสังคม สร้างความเชื่อที่ดี ในการสร้างความดี และช่วยกันทำใน สิ่งที่ถูกต้อง ในสังคม จะเป็นตัวช่วยส่งเสริม และ สร้างพลังของความสำเร็จ ที่เป็นมวลพลังงาน ของความยิ่งใหญ่ จากสังคมที่ร่วมมือร่วมใจ

ความสำเร็จที่มาจากความเชื่อ

พลังความเชื่อในความรัก  ความรัก เป็นพลังที่บริสุทธิ ที่ออกมาจากภายใน และถูกส่งมอบออกไปให้ กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความรู้สึก ที่สามารถสัมผัสได้ หรือแม้กระทั่ง การแสดงออกถึงความรัก ในรูปแบบของการกระทำ

การเชื่อมั่นในความรัก จะทำให้หัวใจ และจิตวิญญาณแข็งแกร่ง ถ้าเรามีความเชื่อในความรัก หรือ ในความสัมพันธ์ที่มีอยู่ จะเป็นพลังงานที่ทำให้เรานั้น ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ สิ่งสำคัญหลักๆก็คือ คนทั้งสองคนจะต้องเชื่อ ในความรัก ความสัมพันธ์ ของคนทั้งคู่ว่า จะต้องประสบความสำเร็จ และความสุขอย่างแน่นอน

บทส่งท้าย

ความเชื่อ ถือได้ว่า เป็นพลังพื้นฐาน ที่จะทำให้ ชีวิต ประสบกับความสำเร็จ ได้อย่างสบบูรณ์ พลังงานความเชื่อ เป็นพลังงานที่ดึงดูดแม้กระทั่งพลังงาน ที่มาจากภายนอก ให้กลับเข้าสู่ ตัวของเราเอง เป็นการสร้างความมั่นคง และคามเชื่อมั่น ในการดำเนินชีวิต เพื่อให้แต่ละคนนั้ัน ได้พบเจอกับ เป้าหมายและ ความสำเร็จของชีวิต

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง