ทำธุรกิจอะไรดี ไม่มั่นใจ? สิ่งนี้แหล่ะ คือธุรกิจของคุณ

ทำธุรกิจอะไรดี อย่างมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่คุณไม่แน่ใจว่า จะทำธุรกิจอะไร? แต่คุณนั้นรับรู้ได้ว่า คุณต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่มีอิสระ และประสบความสำเร็จในชีวิตทางด้านการเงิน

คุณคงเคยได้ยินหลายๆคนพูดว่า ให้ทำในสิ่งที่เราชอบ ในสิ่งที่เรารัก แล้วเราก็จะ ประสบความสำเร็จ และมีความสุขกับชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ต่อมาคุณกลับพบว่า การทำในสิ่งที่คุณรัก และคิดที่จะทำนั้น มันมีหลายอย่าง ที่ทำให้คุณรู้สึกเริ่มไม่มีความสุข จนเริ่มไม่แน่ใจกับการตัดสินใจของตัวเอง

คุณเห็นหลายๆคนที่สร้างสินค้า สร้างธุรกิจของตัวเองโดยนำเสนอ ผ่านทางช่องทาง ออนไลน์และรู้สึกถึง แรงกดดันในการนำเสนอบ้างหรือไม่ แต่ในความเป็นจริง คุณไม่ชอบงานที่ต้องนำเสนอตัวเองต่อสื่อ หรือสาธารณะ แต่ชอบที่จะอยู่อย่างเงียบสงบ และชอบความเป็นส่วนตัว

ถ้าคำถามทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ มันช่างตรงกับความรู้สึกที่คุณมีละก็ บทความนี้เขียนมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

ธุรกิจนี้เหมาะที่จะเป็นธุรกิจ ในจังหวะของชีวิตที่ ไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร และธุรกิจประเภทนี้ เป็นธุรกิจที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตที่ทำให้สามารถสร้างและพัฒนาให้ธุรกิจ มีความเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ และยังส่งผลให้ เกิดการพัฒนาในด้านการดำเนินชีวิต และคุณอาจจะค้นพบว่า นี่แหล่ะเป็นธุรกิจที่คุณฝันหามานาน เพื่อมาเติมเต็มชีวิตของตัวคุณเอง

ต่อจากนี้ นี่คือการเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรามาเริ่มต้นจากความสิ้นหวังและไร้ความหวังในในการใช้ชีวิตกันเลย

เริ่มต้นด้วยการเอาชนะการผลัดวันประกันพรุ่งที่มักจะสร้างความรู้สึกเกียจคร้าน

ทุกๆครั้งในการเริ่มต้น ทำในสิ่งใหม่ๆย่อมเป็นเรื่อง ที่ยุ่งยากและลำบาก ในความรู้สึกช่วงแรกๆ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เรื่องของความรู้สึก น่าจะเหมือนกับความรู้สึก การปีนขึ้นภูเขาในครั้งแรก มันไม่ใช่เรื่องง่าย เฉกเช่นเดียวกัน เหมือนกับเรื่องของธุรกิจ

ในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ที่เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก การแบกรับ ความรู้สึกกดดัน และความเสี่ยง ในการเริ่มต้นและการตัดสินใจ ความรู้สึกเหมือนกระต่าย หลงเดินทางไปอยู่กลางถนนตอนเวลากลางคืนที่มืดมิด แล้วต้องเจอรถที่เปิดไฟหน้ารถ แล้วกระต่ายเกิดอาการตกใจ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อไป ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว

ทำไมสถานการณ์ ทั้งหมดจึงเป็นแบบนี้ ถ้าเรายิ่งปล่อยให้เวลา นั้นผ่านเลยไป เท่ากับเป็นการสูญเสีย เวลาอันมีค่าในชีวิต จนกระทั่งเกิด สถานการณ์ที่เลวร้ายในชีวิต จึงทำให้เรารู้ว่า เวลาที่เราเสียไปทั้งหมดนั้น มันชั่งมีค่ามากเหลือเกิน มันจะทำให้ชีวิตเราดีกว่านี้ ถ้าเราเริ่มต้นและจัดการ กับเวลาที่มีอยู่ ได้ดีกว่าสิ่งที่เราได้ ทำในปัจจุบัน

เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงในสภาพสังคมและเศรฐกิจ ยิ่งตอกย้ำถึง ความยุ่งยากและลำบาก ในการเริ่มต้น และในการใช้ชีวิต ที่อยู่ในช่วงตกต่ำที่ยากลำบาก เป้าหมายชีวิตที่อยากจะสร้างขึ้นมาดูหมองมัว แทบมองไม่เห็นหนทาง ในการเริ่มต้น

เหตุการณ์และความรู้สึก เหล่านี้จะเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าปล่อยให้พฤติกรรมการผลัดวันประกันพรุ่งนั้นเกิดขึ้นกับคุณ “รอไปก่อน” “เดี๋ยวค่อยว่ากัน” “เดี๋ยวค่อยทำ”

อันดับแรกเริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณนั้นทำอยู่เป็นประจำ

หยุด ละ เลิก พฤติกรรมการผลัดวันประกันพรุ่ง เริ่มต้นทำเลย ทำเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมากว่าเราต้องการที่จะทำอะไร หรือเราต้องทำอะไร ให้นึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ในช่วงเวลาสองถึงสามวัน ก่อนหน้านี้ ว่าเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง จดบันทึกการกระทำ ทั้งหมดที่ผ่านมา ทั้งหมดเท่าที่จำได้ บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร

มีหลายคนที่มีความต้องการ อยากที่จะทำมากมายหลายอย่าง อย่างเช่น บางคนต้องการที่จะเรียนและพูดภาษาอังกฤษให้ได้ บางคนต้องการที่จะเริ่มฝึกโยคะ เป็นต้น แต่ในความเป็นจริง ในเรื่องของการกระทำ ยังไม่เริ่มทำตามในสิ่งที่ตัวเอง ได้พูดไว้ซักที ได้แต่คิดแล้วก็ดูคนอื่นๆ ที่เค้าทำกัน จนเค้าประสบความสำเร็จไปก็มากแล้ว ดูไปเรื่อยๆไม่ได้คิดลงมือทำซักที

ถ้าคุณมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณจริงๆตามที่คุณได้พูดไว้ การกระทำเท่านั้นที่จะสามารถทำให้ ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ

ดังนั้นให้ลองสังเกตุการกระทำ และพฤติกรรมทั้งหมดของคุณในช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมา เขียนรายละเอียดทั้งหมด บันทึกลงในอุปกรณ์ที่คุณมี เพราะการเขียนถือเป็นเครื่องมือ ที่สำคัญในชีวิต ที่สามารถทำให้ชีวิตของเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น

การเขียนจะทำให้เราเริ่มรู้จักและมองเห็นตัวเองมากขึ้น และนี่เองคือเหตุผลสำคัญว่าการเขียนนั้นสำคัญมากแค่ไหน คุณจะสังเกตุได้ว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต พวกเขาเหล่านั้น ชอบที่จะเขียนบันทึกเรื่องราวในชีวิตที่ได้เจอในแต่ละวันลงในบันทึกการเดินทางของชีวิต

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณเริ่มที่จะมองเห็นและเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น คุณจะกลายเป็นคนที่ มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเองโดยอัตโนมัติเพราะคุณจะสัมผัสได้ว่า อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณนั่นเอง

มาถึงตรงจุดนี้ คุณกำลังเริ่มเข้าสู่ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่มีความต้องการที่จะทำให้ชีวิตของคุณนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเรามาเริ่มต้นกันจากจุดเริ่มต้นที่คุณนั้นเป็นอยู่ ณ สถานการณ์ในปัจจุบัน

Thinking

ใช่แล้ว เริ่มต้นจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ ณ ตอนนี้

เอาเป็นว่า คุณเป็นคนชอบดูซีรี่ย์มากถึงมากที่สุด เป็นแฟนพันธ์แท้เลยทีเดียว ระหว่างที่ดูซีรี่ย์สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ มันฝรั่งทอด เบอร์เกอร์ ชอบมากๆๆ ตบท้ายด้วย โค๊ก แฟนต้า  เพราะชีวิตต้องการความซาบซ่า

ใช่ สิ่งที่จะทำต่อไปนี้สำคัญมาก ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่ผิด กับการที่คุณเอง จะต้องยอมรับและเข้าใจ มองเห็นในสิ่งที่คุณ นั้นเป็นในปัจจุบัน ไม่ต้องรู้สึกแย่ เอาเป็นว่าเขียน รายละเอียดใน การกระทำของคุณเอง ทั้งหมดที่มี เพื่อให้เกิดการเข้าใจ และการยอมรับ เพื่อให้มองเห็น ตัวเองให้ชัดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญ

ช่วงเวลาในชีวิตของเรานั้น มันไม่สำคัญว่าชีวิตของคุณนั้น เป็นอย่างไร คุณเกิดมาจากที่ใด แต่ความหมายของชีวิตที่แท้เจริงและมีคุณค่าคือ คุณจะนำพาชีวิตของคุณนั้นเดินทางไปในแบบใดมากกว่า

เริ่มต้นจากการเขียนบันทึก การกระทำพฤติกรรม ทำให้ได้ทุกวัน ตื่นนอนตอนเช้าใช้เวลา ซักประมาณ 5 นาที ทำทุกๆวันให้เป็นกิจวัตร เขียนรายละเอียดลงไปว่า เวลาของคุณทั้งหมดที่มีนั้น คุณใช้มันไปกับเรื่องอะไรบ้าง ความรู้สึกของคุณที่มีเป็นอย่างไร คุณได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่คุณทำนั้นมากน้อยเพียงใด และคุณมีเกิดความสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรอีกมั้ย และยังคงต้องหาโอกาศเพื่อทำให้สิ่งที่ไม่เข้าใจนั้น ได้เกิดความแจ่มแจ้งมากขึ้นหรือไม่

คิดแบบหลักการแห่งศิลปะในการต่อสู้

หลักการที่สำคัญมากที่สุดและเป็นหัวใจ ในศิลปะการต่อสู้ คือไม่หยุดเคลื่อนไหว หรือหยุดอยู่กับที่ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณอยู่กับที่ จะทำให้เป็นเป้านิ่งให้กับคู่ต่อสู้ จู่โจมเราได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการเคลื่อนไหว จึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เรานั้นได้หา จังหวะและโอกาศทิศทาง ที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้ และมีโอกาศที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่าย

คล้ายๆกับการเคลื่อนย้ายวัตถุ ที่มีความใหญ่และ หนักมากโดยใช้ตัวช่วยคือ ล้อเลื่อน เพื่อช่วยในขับเคลื่อนให้วัตถุหเคลื่อนที่ ช่วงแรกจำเป็นจะต้องแรงพลังในการผลักเป็นอย่างมากเพื่อส่งแรงไปให้ล้อเลื่อนนั้นขยับ แล้วเมื่อล้อเลื่อนเริ่มขยับแล้วนั้น เหตุการต่อมาก็คือ ล้อเลื่อนจะเคลื่อนได้เองโดยไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนครั้งแรกอีกต่อไป

เปรียบได้กับชีวิตของเรา ถ้าเรามีความต้องที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม เมื่อเริ่มปฎิบัติ ขอให้ทำให้เป็นกิจวัตร ให้เป็นสิ่งที่ต้องทำในให้เป็นประจำในทุกๆวัน เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ต้องทำสิ่งนี้ และขาดที่จะทำมันไม่ได้ ผลที่คุณจะได้รับ จากการเปลี่ยนแปลงการกระทำไม่ท้อถอย คุณจะเริ่มมองเห็นหนทางใหม่ๆในชีวิต ที่คุณนั้นจะสามารถนำมาเป็นเปลี่ยนแปลงและแก้ไขที่จะทำให้อนาคตของคุณนั้นเปลี่ยนแปลง

แต่สิ่งที่สำคัญทั้งหมดทั้งมวล ณ ตอนนี้คือการเขียน การฝึกเขียนเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง ต้องบังคับตัวเองให้เริ่มต้นเขียนให้ได้ การเรียนรู้คือและเข้าใจตัวเองเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำต่อไปเรื่อยๆปลูกฝังให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน อย่างต่อเนื่องไปประมาณหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้ทุกอย่างก็จะเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

ศิลปะการต่อสู้

กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้มีความรู้ความสามารถในสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้

ก่อนอื่นต้องจำไว้ให้ดี ว่าคุณต้องการที่จะทำสิ่งนี้เพราะคุณไม่มีความั่นใจว่าคุณต้องการที่จะทำธุรกิจอะไรดี ณ ตอนนี้

คุณเริ่มต้นจาก การพัฒนาเรื่อง ของการเขียน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และมองเห็นตัวเอง เห็นซึ่งการกระทำ ถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ในชีวิตของคุณ สังเกตุเห็นในสิ่งที่ คุณได้พบเจอนั้น สามารถนำมาเป็น ประโยชน์และใช้ แนะนำเป็นแนวทาง ให้คนอื่นได้อย่างไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะใดก็แล้วแต่ อย่างเช่นตัวอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น จากพฤติกรรมที่ชอบดูซีรี่ย์มาก คุณได้กลายเป็นผู้มีความรู้ในเรื่องทีวีซีรี่ย์ รายละเอียดต่างๆของผู้แสดง เป็นผู้เชียวชาญด้านรสชาดของเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่ม

พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ยกระดับและมองเห็นถึงความดีงาม ในชีวิตของตัวเองว่ามันก็มีคุณค่า และมีสิ่งที่ดีที่ส่งผลให้ชีวิตของคุณนั้นสามารถเพิ่ม และพัฒนาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นได้

ใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการเขียน บันทึกรายละเอียดของชีวิต ในทุกๆวัน มีความสุขและสนุกกับพลังที่มีในการเขียน

เริ่มต้นแรกๆนั้นด้วยการเขียนบันทึกเรื่องชีวิตของตัวเอง สิ่งที่จะทำให้การเขียนนั้นมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมาก คือการเขียนลงกระดาษด้วยปากกา เพราะการเขียนด้วยมือนั้น จะสร้างความรู้สึกถึง รายละเอียดเรื่องราวและสัมผัสถึงรายละเอียด ของตัวอักษรได้ดีมากว่าคีย์บอร์ด

เมื่อไหร่ก็ตามที่การเขียนของคุณ ได้กลายเป็นสิ่งที่คุณนั้นมั่นใจมากขึ้นว่า งานเขียนของคุณนั้นมีประโยชน์และมีคุณค่าต่อตัวเองและคนที่อยู่ร่วมในสังคม มันก็อาจจะถึงเวลาที่คุณนั้นได้แบ่งปันประโยชน์และสิ่งดีๆให้กับคนอื่นๆได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน

และนี่คือจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจที่คุณไม่แน่ใจว่าจะ ทำธุรกิจอะไรดี

คู่ค้าตลาดผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ธุรกิจตัวนี้ถือว่าเป็นรูปแบบธุรกิจที่ดีที่สุดก็ว่าได้ ณ ตอนนี้ แต่เราจะยังไม่กล่าวถึงว่ามันดียังงัย แต่จะมาเริ่มสังเกตุก่อนว่า การที่คุณจะทำธุรกิจชนิดนี้ คุณจำเป็นต้องใช้อะไรบ้างเพื่อจะทำให้ ธุรกิจชนิดนี้บรรลุผลและประสบความสำเร็จ

เรื่องดีเรื่องแรกเลยก็คือ ธุรกิจชนิดนี้เป็นการเริ่มต้น โดยที่ไม่ต้องลงทุนใดๆ แต่คุณจะต้องเรียนรู้ และพัฒนาในเรื่องทักษะเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ และคู่แข่งในเกมธุรกิจ ซึ่งทักษะเหล่านี้ถือว่า เป็นความต้องการต่อโลกในปัจจุบันก็ว่าได้

กระนั้นทักษะที่ได้รับการพัฒนา จากธุรกิจชนิดนี้ จะมีประโยชน์กับธุรกิจอื่นที่มีความใกล้เคียงกันกันอีกด้วย เริ่มพัฒนาทักษะและสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ เพื่อทำให้คุณนั้นมีความสามารถ ที่หลากหลายในหลายๆด้านกันดีกว่า

ธุรกิจที่ใกล้เคียงที่สามารถนำทักษะ ที่เกี่ยวข้องกันไปต่อยอดได้ก็คือ เรื่องการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ มันคือทักษะที่เป็นเรื่องราวของการพัฒนาและ สร้างความสามารถในเรื่องของการเขียน การเรียงร้อยถ้อยความ เรื่องราวเพื่อให้เข้าใจและเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การค้นพบแนวทางเพื่อเป้นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจ

สร้างและพัฒนาทักษะให้มีคุณค่าในวันนี้ต่อโลกในปัจจุบัน

ดังนั้น เรามาเริ่มต้นกันที่ ทักษะทั้งสามประเภทที่จำเป็นจะต้องใช้ในการประกอบธุรกิจของคุณ ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วเบื้องต้น คือ ความรู้ทางด้าน Internet ทักษะด้านการเขียน และ จิตวิทยาการคิด

การพัฒนาทักษะของชีวิตของคุณคือการเดินทาง เพราะยังมีอะไรในโลกนี้ที่คุณนั้นจะต้องเรียนรู้อีกมากมาย ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก ตัวเราเองจะต้องรู้จักปรับปรุงและพัฒนาทักษะของเราเองนั้นให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ ถ้าคุณนั้นต้องการที่จะเป็นผู้นำในเกม

แต่สิ่งที่ดีและทำให้การทำธุรกิจของคุณ นั้นน่าสนใจคือคุณจะต้องสนุก และมีความสุขในการสร้างและพัฒนาทักษะที่ต้องใช้ในในเกมธุรกิจนี้แบบยั่งยืน การเรียนรู้หรือได้รับข้อมูลใหม่ๆ มันจะส่งผลดีกับธุรกิจของคุณ ในข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำมาพัฒนา ในรูปแบบธุรกิจที่เป็นในแบบคุณอย่างน่าสนใจ

โดยส่วนมากการจ้างคนนอก เข้ามาช่วยจัดการและดูแลธุรกิจ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนนั้นทำกัน แต่การลงมือทำด้วยตัวคุณเอง เรียนรู้และพัฒนาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ศึกษาหาข้อมูลเพื่อให้เกิดความรู้นั้น มันจะยิ่งสร้างอิสระให้กับธุรกิจและชีวิตของคุณได้ดีกว่า

ถ้าจะให้แนะนำก็อยาก ที่จะแนะนำให้เลือกการฝึกและ พัฒนาทักษะในสิ่งเหล่านี้ให้กับตัวเอง เป็นหนทางที่ดีที่สุด เพื่อเป็นการสร้างโอกาศและอิสระให้กับตัวคุณเอง เพื่อคุณนั้นสามารถที่จะเลือกและตัดสินใจได้อยู่เสมอว่า จะบริหารและจัดการกับธุรกิจของคุณเอง เมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่คุณมีความต้องการ

ต่อจากนี้เราจะเริ่มพูดถึง วิธีการในการเริ่มต้นธุรกิจ คู่ค้าตลาดผลิตภัณฑ์ออนไลน์

เขียนบันทึก

เลือกรูปแบบและสร้างช่องทางในการทำเสนอ

เมื่อคุณได้ค้นพบแล้วว่า คุณมีเรื่องราวและมีสิ่งที่คุณต้องการที่จะแบ่งปันหรือนำเสนอ ให้คุณลองเลือกรูปแบบหรือช่องทางในการนำเสนอเรื่องราวทางที่ผ่านทาง Internet ที่คุณคิดว่ามันน่าจะเหมาะสมกับเรื่องราว หรือความรู้ที่คุณนั้นต้องการที่จะนำเสนอ

รูปแบบที่เป็นตัวเลือกนั้นมีมากมาย ที่คุณสามารถที่จะเริ่มต้นได้ไม่ยาก แต่การเลือกรูปแบบที่ให้เลือกใช้ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยที่เป็นรูปแบบที่เปิดใช้แบบอิสระ ไม่มีข้อผูกมัด

รูปแบบที่เป็นแบบฟรีที่อยากจะแนะนำให้ลองเลือกใช้คือ Tumblr, WordPress, and Blogger

Tumblr เป็นรูปแบบช่องทางและสถานที่ในการนำเสนอ ในสิ่งที่คุณนั้นค้นพบตัวเองและผูกพันธ์กับสิ่งที่คุณรัก และต้องการที่สื่อสารออกมาเป็นประโยคหรือคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจหรือดึงดูดความสนใจ

WordPress เป็นแบบรูปช่องทางที่อำนวยในเรื่องการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และง่ายในการออกแบบ ง่ายต่อการพัฒนา รวมถึงสามารถนำไปปรับแต่งใช้ได้อย่างอิสระ ทั้งยังสามารถใช้งานผ่านมือถือได้อย่างสะดวก

Blogger  เป็นรูปแบบช่องทางอีกช่องทางนึง ที่ช่วยให้คุณนั้นสามารถ เผยแพร่ในสิ่งที่คุณสนใจ หรือการแบ่งปันข่าวสารได้ฟรีโดย ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งยังมีรูปแบบและสีสันที่สวยงาม ในการสร้าง Blogger เป็นในสไตล์ของคุณเอง ช่องทางนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกเบื้องต้นที่ได้รับการนิยม และพัฒนานำไปสู่การสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองในที่สุด

ตัวอย่างทั้งสามแบบนี้ เป็นเครือข่ายที่ เหมาะสมในโลกตลาดออนไลน์ ที่คุณเองสามารถที่จะเลือกขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับประเภทเนื้อหา หรือความสนใจที่คุณนั้นต้องการที่จะนำเสนอต่อเรื่องราวที่คุณต้องการ

เมื่อมีอุปกรณ์ที่เป็นช่องทางที่เอาไว้สร้างงานเว็บไซต์ของคุณได้อย่างอิสระ ได้สะดวกตามที่คุณต้องการ สิ่งต่อจากนี้คุณจะต้องพิจารณาในเรื่องของชื่อของเว็บไซต์ และรูปแบบที่เหมาะสมกับความ กับข้อมูลและเนื้อหาที่คุณนั้นต้องการ

เนื้อหารายละเอียดนี้เราจะมาอธิบายลึกลงไปอีกทีในภายหลัง

ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มคน

การมีความสามารถและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการเขียนจะต้องใช้ความพยายามมากทีเดียว ในหลายๆคนแทบจะไม่เคยเขียนประโยค หรือข้อความที่ต้องจำเป็นต้องมีเนื้อหาที่เชื่อมโยงกัน เรียงร้อยเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องเพื่อสร้างความน่าสนใจและทำให้ผู้ที่อ่านนั้นเกิดความเข้าใจ ที่ต้องใช้ในระบบของ Social Apps และ Microblogging Systems.

สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาให้มีทักษะในการเขียนที่ดีคือการเริ่มต้นเขียนและต้องเขียนให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แต่สำหรับโลกของอินเตอร์เน็ตการเขียนในลักษณะนี้จะไม่เหมือนกัน เนื่องจากการเขียนในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น จะมีเครื่องมือตัวกลั่นกรองสำหรับการค้นหาและจัดอันดับความน่าสนใจในเนื้อหาของการเขียน ด้วยการเก็บความนิยมในการค้นของนักอ่านในโลกอินเตอร์เน็ต

ดังนั้นในการเขียนข้อมูลหรือเนื้อหาในเว็บไซต์ นอกจากต้องคำนึงถึงเนื้อที่เป็นประโยชน์กับคนอ่านแล้วยังต้องคำนึงถึงการเขียนเนื้อหาหรือข้อมูลที่ส่งผลในการจัดลำดับการค้นหาในระบบของอินเตอร์เน็ตอีกด้วย

สำหรับการเขียนเนื้อหา เพื่อให้เกิดความดึงดูด จากผู้อ่านให้มีความสนใจ และติดตามข้อมูลเนื้อหาจากในเว็บไซต์ของคุณอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณยังจำเป็นจะต้องมีเทคนิคและความเข้าใจในการเขียนที่ทำให้งานเขียนของคุณนั้นติดอันดับต้นๆ ของการค้นหาในระบบเครื่องมือในการค้นหา ( Search Engines )

ลองเริ่มอ่านและดูบทความต่างๆเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการเขียนบทความที่เป็นการเขียนที่ดีสำหรับการสร้างเว็บไซต์

เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของคนจะเป็นแรงจูงใจที่ดีในการเขียนบทความเพื่อให้ได้รับความสนใจ

การสร้างหรือการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีคือการออกแบบด้วยวิธีการเรียบเรียงและนำเสนอโดยเข้าใจถึงพฤติกรรมของคน มองเห็นในสิ่งที่คนเหล่านั้นมีความชื่นชอบและสนใจ

ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้รับความสนใจในระยะเวลาสั้นๆจากผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ของเราจากทางอินเตอร์เน็ต ด้วยระยะเวลาที่น้อยในการเข้าชม การสร้างเว็บไซต์โดยใช้หลักการสร้างจากพฤติกรรมที่ใกล้เคียงหรือเป็นที่นิยมของคนจะยิ่งสร้างแรงจูงใจและทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ ที่จะนำไปสู่การสร้างรายได้ที่ดีในการหารายได้ทางอินเตอร์เน็ต

ความไม่แน่ใจในการทำธุรกิจ ไม่แน่ใจว่าจะ ทำธุรกิจอะไรดี ? ลองคิดใหม่อีกครั้ง

ที่นี่ตอนนี้ คุณมีธุรกิจที่เป็นระบบธุรกิจในแบบออนไลน์ที่คุณสามารถที่จะได้ทำเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อคุณประสบกับปัญว่าคุณไม่แน่ใจว่าจะ ทำธุรกิจอะไรดี ?

ซึ่งแนวคิดในธุรกิจนี้ ก็คือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวันของคุณเอง สร้างเป็นรูปแบบในการนำเสนอ สร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาและสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอ พัฒนาและสร้างขึ้นมาเพื่อให้มันสร้างรายได้ จากผู้ที่สนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ พร้อมทั้งส่งต่อผลิตภัณฑ์ไปให้กับบุคคลอื่นๆให้ได้ซื้อและใช้เช่นเดียวกัน

เมื่อคุณได้เริ่มที่จะเข้าใจและสามารถจัดการกับธุรกิจนี้แล้ว คุณจะเริ่มมองเห็นว่าคุณสามารถที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณมองว่าสามารถที่จะนำพามาซึ่งรายได้หรือเครือข่ายที่จะสร้างธุรกิจนี้ไปด้วยกันและจะเริ่มขยับขยายธุรกิจของคุณได้กว้างขวางมากขึ้น

นอกจากนั้นคุณจะยังมีอิสระอย่างเต็มที่ ในเรื่องสถานที่และเวลาในการจัดการและบริหารธุรกิจของคุณ รวมถึงธุรกิจตัวอื่นๆที่คุณสนใจ รวมถึงทำให้คุณก็มีเวลาที่จะคิดและพัฒนาทักษะต่างๆเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณเองให้ดียิ่งๆขึ้น

จากประสบการณ์ทั้งหมด ที่ได้ทำธุรกิจประเภทนี้ เกิดการค้นพบว่าเป็นธุรกิจที่สร้างความมหัศจรรย์ในการใช้ชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนั้นยังเป็นธุรกิจที่ทำให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด

ต้องบอกก่อนว่าธุรกิจประเภทนี้ ช่วงแรกอาจจะยังไม่ทำให้เห็นถึงการเติบโตหรือได้รับความนิยมในการเข้าเยี่ยมชมจากกลุ่มคนที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตมากนัก ธุรกิจประเภทนี้จำเป็นต้องใช้เวลา รวมถึงต้องให้เวลากับตัวเองเพื่อพัฒนาและสร้างเว็บไซต์ของเรานั้นให้น่าสนใจ และให้ได้รับการเข้าชมจากกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมาย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความไว้เนื้อเชื่อใจ ในความสัมพันธ์

ความรัก คืออะไร ในมุมมองของแต่ละคน แต่ละคู่นั้น การให้ความหมาย ในเรื่องความรัก ย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ที่ได้พบเจอ หรือเรื่องราวที่ได้ผ่านมา ของความรักนั้น เป็นอย่างไร ความเจ็บปวดจากความผิดหวัง ที่ได้รับจากด้านความรัก ย่อมมีโอกาส ที่ทำให้มุมมอง และความนึกคิดของเรื่องความรัก เปลี่ยนแปลงได้ บางคนอาจจะให้ ความหมายของความรัก คือ การเสียสละ ความรักคือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความรัก เป็นสิ่งที่สวยงาม ความรัก ทำให้คนตาบอด เป็นต้น

ความรักเป็นความรู้สึก ของความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็น การสร้างความสุข และความสวยงาม ให้กับชีวิต สร้างพลังในการขับเคลื่อนของชีวิต แต่เนื่องจากความแตกต่าง ของวิถีการใช้ชีวิต และแนวทางในการคิดของแต่ละคน ความชอบและความไม่ลงตัว ของคนที่มีไม่เหมือนกัน

ประเด็นความหมาย ของความรักที่น่าสนใจ เมื่อความรัก คือ ความไว้เนื่อเชื่อใจ ความไว้ใจ หรือเชื่อใจในความรักนั้น มันใช้ได้จริงๆหรือไม่ การเชื่อใจเป็นเรื่องของความรู้สึกที่อ่อนไหว และอันตราย การไว้ใจและ เชื่อใครซักคนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางครั้งแม้กระทั่งตัวเราเอง ยังเจอกับปัญหาในบางครั้ง หรือบางเหตุการณ์ ที่แม้กระทั่งตัวเราเอง ยังเชื่อใจตัวเองได้ ค่อนข้างยาก

ความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำอย่างไรจึงจะมี ผลที่ดีต่อ ความรัก ความสัมพันธ์

คนสองคนการใช้ชีวิต ที่เคยอยู่ในพื้นที่ อยู่ในขอบเขตที่แตกต่างกัน การใช้ชีวิตในประจำวัน สังคมเพื่อนฝูง สังคมของการทำงาน ลักษณะนิสัยส่วนตัว ความแตกต่างมากมาย ที่เมื่อต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันนั้น ก็ต้องย่อมต้องมีการศึกษา และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

นี่คือประเด็นสำคัญ ที่ความไว้ใจมี ส่วนช่วยได้เยอะ ทำให้ไม่เกิดช่องว่างระหว่างกัน หรือลดอาการเครียด อาการกดดันจากความคิด ซึ่งความคิดของคนเรานั้น มักจะอยู่นอกเหนือ การควบคุมเสมอ แต่ถ้าสามารถทำได้ ประโยชน์ที่ได้นั้น มากมายมหาศาลเลยทีเดียว

ความเชื่อใจ

ผลที่ได้กับตัวเราเอง เราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ความคิดที่มันเกิดขึ้น ทั้งในแง่ที่ดีและไม่ดีนั้น มันจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ ถ้าเป็นความคิดในด้านที่ดี และมีประโยชน์ มันก็จะไม่ส่งผลที่ กระทบมากมายเท่าใดนัก แต่ ถ้าเป็นความคิดในด้าน ที่เป็นทางลบในด้านที่ไม่ได้ดี ซักเท่าไหร่ หรือบางครั้งเป็นความคิด ที่ไร้สาระด้วยซ้ำไป

ความไว้ใจและเชื่อใจ โดยเฉพาะใน เรื่องความสัมพันธ์ จะทำให้ความคิดใน ด้านลบที่จะเกิดใน ความสัมพันธ์ของเรานั้น ลดน้อยลงไปได้มาก การปล่อยวางและ ปล่อยให้ทุกอย่างนั้น เป็นตามธรรมชาติจะ ทำให้เรานั้น บริหารและจัดการ ในการอยู่ร่วมกันได้ง่ายขึ้น ลดในเรื่องของความเครียด จากความคิดของเราเอง ที่บางครั้งมัก จะเป็นความคิด ทำร้ายตัวเราเอง

โดยเฉพาะเมื่อต้องเกิด ช่วงของการแยกห่างกัน ก็จะยิ่งมีเรื่องของการระแวงกันไปมา ไม่สามารถที่จะวางใจได้ว่า คนของเรานั้น เค้ากำลังจะทำอะไร เค้าอยู่กับใคร แล้วเค้าได้ทำเรื่องที่ อาจจะทำให้เรานั้น ต้องเสียใจหรือ น้อยใจได้หรือไม่ ก็เป็นอย่างที่บอกไว้ ว่าความคิดมันน่ากลัว

ผลที่ได้กับคนที่เรารัก จะก่อสร้างความรู้สึก ที่ทำให้เค้านั้นสบายใจมากขึ้น ไม่รู้สึกถึงการจับผิด หรือการตั้งข้อสงสัย  กับการกระทำของตัวเค้าเอง ซึ่งในบางครั้ง ก็ไม่จำเป็นที่ จะต้องอธิบาย ถึงเหตุผล ในทุกๆการกระทำ และยังสามารถนำไปสู่ ความเกรงใจและนับถือ และให้ความสำคัญกับ ความสัมพันธ์มากขึ้น

ยิ่งถูกบังคับ หรือถูกสอบถาม คาดคั้นเพื่อให้ได้มา ในสิ่งที่บางครั้งก็ไม่ใช่สิ่ง ที่ต้องควรนำมาเป็นเรื่องเป็นราว จะยิ่งเพิ่มอุณภูมิความน่าอึดอัด ในการอยู่ร่วมกัน จนกลายเป็นปัญหา ที่ต้องมานั่งถกกัน เพื่อหาคำตอบ ซึ่งในบางครั้ง มันไม่จำเป็น เลยด้วยซ้ำ เพราะบางครั้ง ก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องเห็น หรือต้องรับรู้ในทุกเรื่องๆ ของคนเที่เรารัก

บทส่งท้าย

ความเชื่อใจ หรือความศรัทธาเข้าใจได้ ว่ามันเป็นเรื่องที่ ทำได้ยาก แต่ก็นั่นแหล่ะ เมื่อเราได้ตัดสินใจ ที่จะเชื่อและศรัทธา ในคนที่เรารัก เค้าจะสามารถสัมผัสได้ว่า มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่คนรักกันเลือกที่ จะมอบความรู้สึกให้แบบนี้ให้ และตัวเราเอง หรือคนที่ได้รับ ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ก็ต้องรู้จักรักษาไว้ให้ดี

การทำลายความเชื่อไว้ใจ และความศรัทธา ในคนที่เค้ารักกัน ถือว่าเป็นจุดจบ เป็นการกระทำที่พลาด ครั้งยิ่งใหญ่ ของการดำเนินชีวิตคู่ ที่จะสร้างการอยู่ร่วมกัน แบบสันติสุข เมื่อใดก็ตาม ที่ไม่มีความเชื่อใจ ในกันและกัน  มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากทันที สำหรับทุกๆการกระทำ ต่อจากนี้ จะดำเนินไป ด้วยการสร้างอนาคต ที่สดใสไปด้วยกันได้จริงๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

การกระทำ ย่อมสำคัญกว่าคำพูด

0

เคยได้ยินมั้ย คนที่ดีแต่พูดเวลาที่ต้องทำจริงจัง การกระทำ ที่เกิดขึ้น ไม่เห็นเหมือนที่เคยพูดไว้ หรือแทบจะไม่ไกล้เคียง กับคำพูดที่พูดออกมา จากปากของตัวเอง ความสำคัญหรือสิ่งที่ ต้องควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่ที่คำพูด ที่ออกจากปาก บางคนชอบพูด แบบพูดไปเรื่อย เน้นสร้างความสนใจ ให้ตัวเองมีความสำคัญ เพื่อทำให้ตัวเองดูมีคุณค่า ในสายตาของสังคม

บางครั้งคุณอาจจะแยกไม่ออกว่า อันไหนเรื่องจริงที่ควรเชื่อ หรืออันไหนเป็นแค่คำพูด ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เพื่อทำให้ตัวเองนั้น ดูมีคุณค่า และดูเป็นบุคคลที่น่าสนใจในสังคม

ทำไม การกระทำ จึงสำคัญกว่าคำพูด

ทำไมการกระทำ จึงสำคัญกว่าคำพูด อันนี้เข้าใจ ได้ไม่ยากเลย หลายสิ่งหลายอย่าง หลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้น ที่จะจำเป็นจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง และแก้ไข เพราะว่าในบางครั้ง สถานการณ์ที่เป็นอยู่นั้น มันย่ำแย่ หรือมันมีปัญหา เป็นอย่างมาก จำเป็นจะต้องได้รับ การเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนา ให้มันดีขึ้น เพื่อประโยชน์ และเพื่อป้องกัน ปัญหาในระยะยาว

แต่กลับกลายเป็นว่า การเข้าไปแก้ปัญหานั้น มีความล่าช้า หรือแม้กระทั่ง ถูกหลงลืมไม่ได้รับการเอาใจใส่ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลากหลายโครงการ หลากหลายนโยบาย ได้นำมาเป็นหัวข้อ ในการพูดคุยหรือนำเป็น เนื้อหาและรายละเอียด เข้าพูดคุยหารือกัน เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

สาเหตุหลักๆที่เกิดขึ้นคืออะไร พูดคุยหาข้อตกลงถึงปัญหา ที่เกิดขึ้น และหาหนทางและทางออกเพื่อ ดำเนินการแก้ไข ในหลายๆครั้ง เราจะสังเกตุได้ว่า ผู้ที่เข้าร่วมพูดคุยนั้น มีจำนวนมากมาย แต่ผู้ที่ลงมือกระทำ และจะกระทำอย่างจริงจังนั้น แทบจะมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่า ใครหรือหน่อยงานใด จะเป็นผู้เข้ามาดูแลหรือเข้ามาแก้ไข

การลงมือกระทำ เป็นจุดขับเคลื่อน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าแค่คำพูดอย่างเดียว มักจะไม่ค่อยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซักเท่าไหร่ ดังนั้นการลงมือกระทำ จึงเป็นเสมือนการแสดงออกซึ่ง ความรับผิดชอบต่อ ความคิด และข้อตกลงในคำพูดของตัวเอง

การพูด

 

ทำไม คำพูด จึงถูกมองว่า สำคัญน้อยกว่า การกระทำ

ความเป็นจริงแล้ว คำพูดก็ไม่ใช่ว่า ไม่มีคุณค่าหรือ ไม่มีความหมายซะทีเดียว เพียงแต่ว่า บางครั้ง กับบางเรื่องที่ต้องมี การกระทำเพื่อตอบรับหรือ เพื่อให้สอดคล้องกับ คำพูดที่ได้ พูดไว้ตั้งแต่แรก อย่างเช่น การให้คำสัญญากับใครก็ตาม ว่าจะทำสิ่งนั้น หรือสิ่งนี้ให้ คำพูดหรือคำกล่าวในลักษณะนี้ เมื่อพูดแล้วต้องทำตามที่พูดด้วย

ซึ่งเมื่อได้พูดออกไป แล้วแต่ไม่กระทำ พูดไปเรื่อยเปื่อย รับปากแบบขอไปที โดยที่ไม่สนใจและ ไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดของตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มมี พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความน่าเชื่อถือ หรือความศรัทธา ของผู้ฟังก็จะมีน้อยลง ซึ่งนั่นจึงมักจะทำให้ การพูดในแต่ละครั้งนั้น ไม่มีน้ำหนักและไม่มีใคร ที่จะสนใจอีกต่อไปนั่นเอง

ดังนั้นเพื่อเป็นการยืนยัน และรับประกันว่า สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ลงมือ กระมือกระทำนั้น ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน บางครั้งกับบางคน อาจจะเคยอยู่ในสถานการณ์ที่ ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ จากคนรอบข้างมากมายซักเท่าไหร่ จนกว่าจะพิสูจน์ ให้บุคคลดังกล่าวนั้นเห็นว่า สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่ได้ยินนั้น เป็นไปในแบบเดียวกัน

ขั้นตอนการลงมือกระทำ

IDIA TO PLAN TO ACTION ขั้นตอนที่นำไปสู่การลงมือกระทำ

IDAI เมื่อเกิดปัญหา หรือเรื่องราวสถานการณ์ ที่ต้องได้รับการแก้ไข การพูดคุย การระดมสมองและความคิด ย่อมเกิดขึ้น หลากหลายอุดมการณ์ หลากหลายความคิด ย่อมมีเกิดขึ้นมากมาย เลือกและคัดสรรค์ หาข้อสรุปใน IDIA หรือแนวความคิด ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ ที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ได้อย่างชัดเจน และตรงจุด

PLAN  ข้อสรุปข้อตกลง เป็นอันว่าได้เรียบร้อย ต่อไปก็ถึงขั้นตอน ที่ต้องวางแผน ว่าต้องทำอย่างไร วางแผนให้ชัดเจน ว่าจะต้องทำอย่างไร จัดเตรียมให้เป็นลำดับ ที่ต้องเข้าใจ ในทุกๆหน่วยงาน หรือทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหา ในเรื่องของความสับสน และประหยัดซึ่งระยะเวลา

ACTION เมื่อทุกอย่างชัดเจน ทุกๆคนและะทุกๆหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง มีความเข้าใจที่ตรงกัน รับรู้และเข้าใจว่า ต้องเริ่มต้นจากตรงไหน และต้องทำอะไรต่อไป ก็ถึงเวลาที่ต้องลงมือกระทำ ให้ทุกอย่างเกิดขึ้น และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

บทส่งท้าย 

การลงมือกระทำเป็น การแสดงออกให้เห็นถึง ความมุ่งมั่น และความตั้งใจ อันแน่วแน่ของคนคนนึง ที่มีความรับผิดชอบ และแสดงให้เห็นถึง ซึ่งการให้เกียรติกับตนเอง รวมถึงคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ควรจะเป็นอย่างไร

ต้องระวัง การให้ความหวัง จากคำพูดที่ เปรียบเสมือนกำลังใจ อันยิ่งใหญ่ สำหรับบุคคล ที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการให้ช่วยแก้ไขนั้น มันยิ่งใหญ่มากเพียงไร เมื่อได้พูดออกมาแล้ว ต้องรักษาคำพูด ต้องลงมือกระทำ

แสดงให้เห็นว่า ในสิ่งที่ตนเองได้พูดออกไปแล้วนั้น เกิดขึ้นได้จริง รวมถึงก่อ เกิดประโยชน์ให้กับสังคม และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้อย่างแท้จริง และไม่ทำคนเหล่านั้นผิดหวัง และไม่เสื่อมศรัทธา และยังคงมีความหวัง ที่ดีและยิ่งใหญ่ต่อไป ในการดำรงชีวิต ที่จะต้องอยู่และก้าวต่อไปในอนาคต

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

บูลลี่ (Bullying) พฤติกรรมที่สร้างรอยแผลเป็นให้กับชีวิต

0

บูลลี่ (Bullying) คือ พฤติกรรมหรือ การกระทำที่ข่มขู่ บังคับที่แสดงออก โดยผู้ที่ คิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่แข็งแรงกว่า เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบกว่า และเห็นคนที่อ่อนแอกว่าตนเอง และมีบกพร่องที่มองเห็นได้ชัด หรือมีลักษณะบางอย่างนั้น แตกต่างจากผู้อื่น เป็นเรื่องที่สนุก และเร้าใจเวลา ที่ได้กลั่นแกล้ง หรือทำให้อีกฝ่ายนั้น รู้สึกเสียใจหรือ หมดกำลังใจใน การใช้ชีวิต

เป็นการกระทำที่สร้าง ความรู้สึกที่ฝังใจ และเจ็บปวดที่เกิดจากการ สั่งสมเป็นเวลานาน ในลักษณะของ การกระทำที่ต่อเนื่อง ซ้ำไปซ้ำมา และเกิดอยู่เป็นประจำ จนผู้ที่ถูกกระทำนั้น โดนตอกย้ำเหมือนโดนตอก ตะปูซ้ำลงที่เดิม จนเป็นรอยที่ ยากจะหายไปจาก ความทรงจำ และความรู้สึก

ซึ่งพฤติกรรมการเลียนแบบ การล้อเลียน หรือกลั่นแกล้งกันเอง จะพบว่าสามารถที่ มีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ในชั้นเรียน ตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน บางครั้งการกระทำ อาจจะแสดงให้เห็น ในลักษณะที่โจ่งแจ่ง ชัดเจน แต่ในบางกรณี ก็เป็นกระทำที่แอบแฝง ไปด้วยความไม่หวังดี แอบซ่อนอยู่

ช่วงแรกๆอาจจะมอง หรือรู้สึกว่าเป็น เรื่องสนุกสนาน แต่เมื่อเป็นเหตุการณ์ ที่เกิดเรื่อยๆ เกิดอยู่เป็นประจำ เกิดขึ้นแบบซ้าๆ จากที่เคยเห็น เป็นเรื่องสนุกก็จะ ไม่สนุกอีกต่อไป

กลั่นแกล้ง

ประเภทหรือลักษณะการพฤติกรรมที่เข้าข่ายการ บูลลี่ (Bullying)

ลักษณะที่เป็น พฤติกรรมของ การกลั่นแกล้งนั้น มีหลากหลาย ที่มีความแตกต่างกัน โดยประเภทของช่วงเวลาตามวัยต่างๆ เช่น  วัยเด็กและผู้ใหญ่ รายละเอียดความรุนแรง เนื้อหาของเรื่องราว และวิธีการก็จะมี ความแตกต่างกันออกไป แต่โดยสรุกรวมๆแล้ว ประเภทของ ของลักษณะพฤติกรรม ที่อาจเกิดขึ้น สามารถแยกได้ตามราย ละเอียดด้านล่าง

Physical Bullying การกลั่นแกล้ง ทางด้านร่างกาย เช่น การทำร้าย การตบตี การแอบลอบทำร้าย แบบไม่รู้ตัว หรือการใช้ วิธีการกลั่นแกล้งที่ทำ ให้เกิดการบาดเจ็บ เลือดตกยางออก ทางด้านร่างกาย หรือแม้กระทั่ง การขโมยทรัพย์สิน สิ่งของที่มีมูลค่าพฤติกรรมการ ทำร้ายร่างกาย เป็นพฤติกรรมด้านความรุนแรง

ถ้ายิ่งปล่อยไว้ มักจะเกิดความรุนแรง ขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ รอยบาดแผล ที่เมื่อได้รับ บาดเจ็บจาก ความรุนแรงดังกล่าว ย่อมสร้างเรื่องราว ที่ทำให้เกิด ความทรงจำที่ไม่ดี เมื่อนึกถึงหรือ เห็นรอยแผลเป็น ที่อยู่บนร่างกาย เป็นพฤติกรรมที่ ต้องเข้าแก้ไข และจัดการกับปัญหา ที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

ืทำร้าย ต่อสู้

Verbal Bullying การกลั่นแกล้งทางคำพูด ทางวาจา เช่น การใช้วาจา คำพูดที่ก่อ เกิดความเสียหาย ข้อความที่สื่อในลักษณะของ การดูหมิ่น ไม่ให้เกียรติ์คนอื่น โดยการใช้คำพูดที่ ลักษณะเหมือนการข่มขู่ การล่วงละเมิดทางวาจา การเหยียดหยามเชื้อชาติ ซึ่งเป็นปัญหา ที่เกิดขึ้นมานาน และมักจะได้ยินปัญหา ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ

การสร้างข้อมูลต่างๆ ขึ้นมาเพื่อทำให้ เกิดความเสียหาย และทำให้ต้องอยู่ ในสถานการณ์ที่อันตราย คำพูดเป็นการสื่อสารที่อันตราย และไม่สามารถควบคุมได้ ลมปากของคนนั้น ยากที่จะบังคับ หรือห้ามไม่ให้เกิดขึ้นได้ คำพูดเป็นสิ่งที่ สามารถ ทำลายชีวิตของคนได้

Social Bullying การกลั่นแกล้งทางสังคม สังคมเป็นศูนย์รวมของผู้คนหลากหลาย ที่มาอยู่ร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์แลกเปลี่ยน และสร้างความมีตัวตนเพื่อ สร้างโอกาศที่หลากหลายให้กับชีวิต การกลั่นแกล้งที่ ใช้สังคมเป็นจุดรวมเพื่อ กระจายเรื่องราวต่างๆ

ข่าวลือที่สร้าง ความเสียหาย ไปในทางที่เป็น ภาพลักษณ์ที่เป็นด้านลบ หรือสร้างเรื่องราว ที่ทำให้ผู้ที่ ถูกกระทำนั้น ได้รับการดูถูก หรือความอับอาย ขายหน้า การกลั่นแกล้ง โดยที่ขาดความยั้งคิด ไร้ซึ่งความปราณี

พยายามสร้าง สถานการณ์ให้ อีกฝ่ายนั้น ได้รับการกีดกัน จากสังคม หรือแม้กระทั่ง การสร้างเรื่องราว หรือเหตุการณ์ขึ้นมา เพื่อที่จะทำลายชื่อเสียง และการยอมรับ จากคนอื่นๆที่อยู่ ร่วมกันในสังคม

Cyber Bullying

Cyber Bullying การกลั่นแกล้ง ทางสื่อ Internet ทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการสร้างข้อมูล และทำการกระจายออกไปในลักษณะ ผ่านทางสื่อและช่องทางด้านการออนไลน์ ทางช่องทาง Social Media ซึ่งมีหลากหลาย ประภทที่มีการสร้างสรรค์กันไว้ เช่น Facebook, Instagram, Line, Websites etc.

การส่งข้อความ แบบโต้ตอบกันไปมา เพื่อกระจายข้อมูลที่ กลั่นแกล้งผู้อื่นๆ กันอย่างเปิดเผย ทั้งในแบบสาธารณะ หรือเป็นในแบบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการส่ง อีเมลล์เป็นข้อความ เป็นรูปภาพหรือวีดีโอ ที่มีลักษณะที่ไม่เหมาะสม ซุบซิบนินทาทำให้เกิดเป็นข่าวลือ ที่น่ารังเกียจและแพร่กระจายในช่องทางออนไลน์

วิธีสังเกตุอาการผู้ที่ถูกบูลลี่ 

พฤติกรรมการแสดงออกทางด้านอารมณ์

  • อารมณ์อ่อนไหว เช่น ร้องไห้ เสียใจง่าย หรือ มีอารมณ์โกรธหรือฉุนเฉียวง่าย
  • อารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ ไม่เสถียร
  • พูดจาติดๆขัด หรือติดอ่าง ขาดความั่นใจในตัวเอง
  • ลักษณะนิสัยก้าวร้าว หรือเริ่มพูดจาไม่มีเหตุและผล
  • เริ่มมีปัญหาและไม่เข้าใจกับคนในครอบครัว

อาการที่แสดงออกให้เห็นทางด้านร่างกาย ภายนอก

  • มีร่องรอยการฟกช้ำ หรือมีรอยขีดข่วน โดยไม่รู้สาเหตุ
  • เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่ติดตัวไป ไม่เหมือนเดิม หรือขาด แตกหัก เสียหาย

พฤติกรรมที่ได้รับการโดนกลั่นแกล้งในโรงเรียน

  • เริ่มมีการแสดงออกว่า ไม่อยากไปโรงเรียน
  • ไม่ต้องการที่จะนั่งรถของโรงเรียน
  • คะแนนในการสอบเริ่มมีคะแนนที่ต่ำลงจากเดิม

ทำร้ายร่างกาย

วิธีการรับมือเมื่อลูกหลานหรือญาติพี่น้องตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่

เริ่มต้นด้วยจากการฟัง ผู้ฟังที่ดี สิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เข้าใจเหตุการณ์ ทั้งหมดให้ถ่องแท้ จะต้องได้รับข้อมูล และเรื่องราวทั้งหมด ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเพื่อ ผู้ที่ถูกกระทำนั้น ได้เปิดใจและยินดี ที่จะเล่าเรื่องราว ทั้งหมดให้ฟัง เราจะต้องเป็น ผู้ฟังที่ดี รับฟัง ด้วยความสงบ

โดยที่ไม่พูดจา หรือออกความคิดเห็นก่อน ปล่อยให้เจ้าตัว ได้พูดและระบาย เรื่องราวทั้งหมด ด้วยความเต็มใจ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เจ้าตัวนั้น ได้รู้ว่า การแชร์เรื่องราว ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ เป็นสิ่งจำเป็น และถูกต้อง ที่จะต้องเล่าออกมา ให้หมด

สื่อสารและอธิบายด้วยความระมัดระวัง อย่างมีเหตุและผล การเริ่มต้นในการอธิบาย จะต้องอธิบายด้วย เหตุและผลที่ชัดเจน และเป็นกลาง จะต้องไม่เอา อารมณ์ตนเอง เข้าไปเกี่ยวข้อง อธิบายตามหลัก ของความถูกต้อง และความเป็นจริง ว่าในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เรื่อง ปกติธรรมดาทั่วไป จำเป็นจะต้อง ได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นอีกต่อไปในอนาคต

ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ เช่น สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มาจากอะไร เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ สถานที่ที่เกิดขึ้นที่ไหน และเหตุการณ์ในลักษณะนี้ เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน มีใครพบเห็นหรือรับรู้ หรืออยู่ในสถานการณ์นั้นๆบ้าง ความเห็นของบุคคลที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างไร

ติดต่อสถาบันการศึกษา สถาบันการศึกษาถือว่า เป็นสถานที่ที่ มักจะเกิดเหตุการณ์ การบูลลี่ ได้บ่อยและง่ายมาก ดังนั้น เมื่อตรวจสอบจนพบว่า สถานการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจริง ต้องรีบติดต่อและแจ้ง เรื่องราวที่เกิดขึ้น กับผู้ที่กเี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ได้รับรู้และ ร่วมกันแก้ไขใน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ไม่เกิดขึ้นได้อีก เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว

การพูดคุย

บทส่งท้าย

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับครอบครัว หรือคนรอบข้างที่ได้รับรู้ ว่าคนที่ใกลชิดเรานั้น ถูกกระทำ สิ่งนึงที่เราสามารถที่จะทำได้คือ สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับคนของเรา ว่าการแสดงออกด้านพฤติกรรม ที่ถูกล้อเลียนหรือถูกกลั่นแกล้ง จากเพื่อนๆหรือคนอื่นๆนั้น เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ นอกเหนือการควบคุม สามารถที่จะเกิดขึ้น ได้กับทุกคน ทุกสถานการณ์

การตอบโต้เพื่อให้ได้มาซึ่ง การเอาชนะหรือ การแสดงออกในเรื่องอารมณ์ โต้ตอบกันไปมานั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะกระทำ การวางเฉยหรือไม่สนใจ ต่างหากที่จะเป็นการแก้ไข และทำให้สถานการณ์ต่างๆนั้น ผ่านไปได้ หรือถ้ามันมากไปจนเกินที่จะควมคุม ให้รายงานหรือแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น กับผู้ที่มีอำนาจดูแล เพื่อเป็นการย้ำยั้ง และจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

กระบอกเสียง บทบาทและความสำคัญต่อสังคมโลก

กระบอกเสียง คืออะไร ตามหลักพจนานุกรม แปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ว่า กระบอกเสียงคือ ผู้เป็นปากเป็นเสียงแทน ถ้าเราพิจารณาจาก ความหมายของคำว่ากระบอกเสียง นั่นย่อมหมายถึง การกระทำที่มี บทบาทและหน้าที่ ของการกระทำที่ เป็นตัวแทนทำแทนผู้อื่น

ผู้ซึ่งได้รับโอกาศ รวมถึงได้รับความไว้วางใจ จากส่วนรวมหรือ อาจจะได้รับจาก ตำแหน่งหน้าที่ ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือต้องรับผิดชอบดูแล ซึ่งบุคคลเหล่านั้น จะต้องแบกรับซึ่งความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ทุกคำพูดรวมถึง ทุกการกระทำ จะเป็นตัวผูกมัด และจดบันทึก ในความทรงจำของสังคม ตลอดไป

กระบอกเสียง บทบาทหน้าที่

บทบาทที่มีต่อสังคม สังคมคือ การอยู่รวมตัวของคน ในจำนวนหมู่มาก หลากหลายความต้องการ ข้อเรียกร้องย่อมมีมาก เป็นของคู่กันอยู่แล้ว ดังนั้นการรับฟัง หรือการนำเสนอ เพื่อให้ได้รับการยอมรับ หรือเข้าใจในเรื่องราว หรือความคิดเห็นต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ ค่อนข้างจะไม่ทั่วถึง หรืออาจจะทำให้ เกิดความสับสนได้ง่าย

บุคคลที่เป็นตัวแทน ที่ถือเป็นกระบอกเสียง ที่ใช้เป็นผู้สื่อสาร จึงมีบทบาทที่สำคัญ ในการนำเสนอ เพื่อให้เกิดการรับฟัง ที่ชัดเจนและ ไม่คลาดเคลื่อน เนื่องด้วยความ หลากหลายที่มี บางครั้งจึงเป็น เรื่องที่ค่อนข้าง ละเอียดอ่อนที่จะทำให้ ความคิดเห็นและความต้องการ ของบุคคลเหล่านั้น พึงพอใจ

ในหลายๆเหตุการณ์ หรือเรื่องราวที่เป็นปัญหา ที่เกิดขึ้นในสังคม และเพื่อให้ได้รับการแก้ไข ที่โดยเร็วและแก้ไข ได้ตรงจุด จะสังเกตุได้ว่า บทบาทของ กระบอกเสียงที่ เป็นตัวแทนและ ก้าวออกมา เพื่อจะนำเสนอถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว เป็นการสร้างความน่าสนใจ และเรียกร้องให้ได้ รับการแก้ไข ได้อย่างเห็นผลเสมอ

กระบอกเสียงที่เป็น ตัวแทนและเป็น เสียงของกลุ่มคน ที่ต้องการที่จะสื่อถึง สังคมให้ได้รับรู้ สร้างความชัดเจน ได้อย่างดี สังคมจึงมีความจำเป็น ที่จะต้องมี บุคคลหรือกลุ่มคน ที่พร้อมจะเป็นตัวแทน ในการบอกเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ให้สังคมใน คนหมู่มากได้รับรู้ และได้คำนึงถึง การเปลี่ยนแปลง หรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

สิ่งแวดล้อม

บทบาทที่มีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เวลาที่เปลี่ยนแปลง การพัฒนาทาง ด้านเทคโนโลยี ค่านิยมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้สิ่งแวดล้อมเริ่มถูกทำลาย มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลักๆก็ ด้วยการกระทำ ของมนุษย์เรานี่แหล่ะ ที่หลงลืม และไม่เอาใจใส่ ต่อธรรมชาติ การจัดตั้งองค์กร เพื่อเป็นหน่วยงาน เพื่อช่วยกันดูแล และพลิกฟื้น เอาธรรมชาติให้กลับคืนมาจึงมี ให้เห็นหลากหลาย

องค์กรต่างๆที่ ถูกต้องขึ้นมา โดยกลุ่มคนที่ ให้ความสำคัญ กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงถือเป็นกระบอกเสียงนึง ที่สะท้อนให้สังคม และมนุษย์โลกนั้น ได้เห็นถึงความสำคัญ ของธรรมชาติ ก่อนที่มันจะสายจนเกินไป ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งจำเป็นใน การดำรงค์ชีวิต ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

การรณรงค์ การเรียกร้องให้เกิด จิตใต้สำนึกที่จะรัก และให้ความสำคัญ กับธรรมชาติ การขอความร่วมมือ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ที่ถูกทำลาย  โครงการและนโยบายต่างๆ เหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าปราศจากองค์กรต่างๆ ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง เป็นตัวแทนที่ เริ่มลงมือเป็นตัวอย่างให้เห็น และนำพาให้ได้รับความร่วมมือ จากทุกๆคน ที่ต้องใส่ใจ และช่วยกันดูแล

บทบาทในด้านคุณภาพชีวิต ด้วยความเหลื่อมล้ำ ในด้านเศรษฐกิจ และทางสภาพสังคม ความเป็นอยู่ มักจะทำให้ เกิดภาวะ ปัญหาด้าน คุณภาพชีวิต ที่ไม่สมดุล การขาดซึ่งโอกาศ หรือขาดซึ่งศักยภาพ ที่จะสามารถเรียกร้อง เพื่อให้ได้รับซึ่งการช่วยเหลือ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตที่เป็นอยู่นั้นดีขึ้น

ดังนั้นเมื่อมีตัวแทน ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง เพื่อนำเสนอเรื่องราว ที่เป็นอีกแง่มุมนึงของกลุ่มคน ที่ไม่มีโอกาศ ได้มีโอกาศที่จะเปลี่ยนแปลง และแก้ไข เพื่อนำไปสู่ การใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า ปัจจุบันมีมากมาย เหลือเกินที่กำลัง ประสบปัญหา ในด้านคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำ และย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

ถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็จะกลายเป็นปัญหา ของสังคมตามมา เนื่องจากไม่ได้รับ ความสนใจ หรือได้รับการดูแล และแก้ไขอย่างจริงจัง ตั้งแต่เริ่มแรก ดังนั้น การเรียกร้อง หรือการแสดงออก ให้เห็นถึง คุณภาพชีวิตที่ไม่ได้รับ ความเสมอภาคหรือ ความสมดุลกันในสังคม ถือเป็นหัวข้อต้นๆ ของคนในสังคม ที่ควรจะให้ความสนใจ และใส่ใจอย่างจริงจัง

ตัวแทน

บทส่งท้าย

ผู้ที่ยอมเสียสละ หรือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ ได้เป็นตัวแทน ได้มีโอกาศในการนำเสนอ เรื่องราวปัญหาต่างๆ ข้อเรียกร้องต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีผู้รับรู้ และจำเป็นจะต้องได้รับการ ช่วยเหลือแก้ไข จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ จากทุกๆฝ่าย เพื่อให้ได้รับการเปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ดีขึ้น

ตัวแทนหรือ ผู้ที่เป็นกระบอกเสียงเหล่านี้ ย่อมต้องเป็นผู้ที่ เสียสละและจะต้อง เข้าใจถึงประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น อย่างแจ่มแจ้ง และชัดเจน การทุ่มเท และความพยายาม บางครั้งต้องแลกมาด้วย ชื่อเสียงและเวลาส่วนตัว ด้วยนโยบาย ที่ต้องการช่วยเหลือคนอื่น ที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือตนเอง

บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคล ที่น่าเลื่อมใส การได้ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาศ ให้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้น ถือเป็นภาระกิจชีวิตอีกด้านนึง ที่น่าภาคภูมิใจต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมโลก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความเข้าใจ ปัจจัยพื้นฐานทางความคิดในการดำเนินชีวิต

0

“ความเข้าใจ” เป็นปัจจัยพื้นฐาน ทางด้านความคิด ในการใช้ชีวิต เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน มากจนเกินไป เคยสังเกตุมั้ย กับบางคนที่ มักจะมีคำถาม หรือมักที่จะมีความสงสัย เข้าใจอะไรยาก  จนเกินไป จนทำให้การใช้ชีวิต ในแต่ละวันนั้นผ่านไป ด้วยความยุ่งยาก วุ่นวายไม่รู้จบ

พยายามที่จะสร้าง ความวุ่นวายเรื่องมาก แค่เหตุผลที่ว่า ไม่เข้าใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น ทำไมคนนั้นถึง ต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ทำไมไม่เห็นจะ เข้าใจอะไรเลย ทัศนคติความคิดแบบนี้ นอกจากจะสร้างปัญหา หรือความวุ่นวายให้กับตัวเราเองแล้วนั้น บางครั้งยังส่งผลกระทบ ไปถึงคนอื่นๆได้ด้วย

การมองเหตุการณ์ต่างๆ ด้วย ความเข้าใจ มีประโยชน์ในด้านใด

ด้านความคิด การตัดสินใจ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ในแต่ละวันมากมาย ที่ทำให้เราต้อง ใช้ความคิด ต้องตัดสินใจว่า จะทำอย่างไร กับเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ลองใช้มุมมอง ในการมองเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยความความเข้าใจ เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้อง สร้างความคิด ให้มันซับซ้อน

เรื่องบางเรื่อง บางครั้งก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ของมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อม ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งมันจะช่วยให้ ประหยัดเวลา ในการใช้ กระบวนการคิดและตัดสินใจ ได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น รวมถึงทำให้ คนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเรานั้น ใช้ชีวิตและอยู่ร่วมกันได้ง่ายขึ้น

ด้านเวลา มองเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า เมื่อใดก็ตามที่คนเรา ต้องการที่จะจัดการ หรือวางแผน กับเรื่องใดๆก็ตาม เวลาจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้มากที่สุด ดังนั้นเวลาจึงสำคัญ ในแต่ละวันเวลา ไม่เคยหยุดเดิน อย่าเสียเวลา ไปในการกระทำที่บางครั้ง ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาที่ต้องอยู่ กับมันนานขนาดนั้น

ความเข้าใจช่วยได้ ช่วยประหยัดเวลาได้ดี ประมวลผลให้เร็ว เพื่อรักษาเวลาในแต่ละวัน ของแต่ละช่วงนั้น ให้ได้มีโอกาสได้ลงมือ กระทำ ได้ใช้เวลาทุกๆช่วงที่มี ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ในแต่ละวัน เวลาหมดเร็วมาก เคยได้ยินมั้ย บางคนบอกว่า มีหลายอย่างที่อยากทำ แต่เวลาในแต่ละวันนั้น มีไม่มากพอ

สงสัย

แต่กับบางคน เวลาในหนึ่งวัน ทำอะไรได้เยอะมากมาย คนทุกคนมีเวลาที่เท่ากัน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะบริหารจัดการเวลา ที่มีนั้นได้คุ้มค่ามากแค่ไหน ฝึกที่จะมองเรื่องราว ต่างๆด้วยความเข้าใจ เป็นอีกทางเลือกนึง ที่จะทำให้คุณไม่เสียเวลา และยังมีเวลาที่จะไปทำ ในสิ่งอื่นๆได้มากขึ้น

ด้านสุขภาพ ความคิดในประเด็นที่ บางครั้งสร้างขึ้นมาเอง ทั้งๆที่อาจจะไม่จำเป็น และยังคงงนเวียน คิดและพยายามหาเหตุและผลเพื่อ จะต้องการหาคำตอบ หาความชัดเจน เนื่องจากไม่เข้าใจ ย้ำคิดย้ำทำ ลักษณะการคิดแบบนี้ แหล่ะที่จะเป็นตัว บ่อนทำลายสุขภาพ ของเราเองโดย บางทีเจ้าตัวไม่รู้ตัว

ความคิดที่ไม่หยุดพัก ผลักดันให้เกิด ความเครียด ความเครียดที่สะสมเป็น เวลานานส่งผล ต่อถึงสุขภาพของร่างกาย ทำให้สามารถเกิด ปัญหาทางสุขภาพ ของร่างกาย รู้หรือไม่ มีหลากหลายโรคภัย ที่อาจจะเกิดขึ้น ได้จากภาวะความเครียด และมันไม่สามารถที่ทานยา แล้วหายขาดได้

มันเกิดจากภาวะ ของความคิด ภายในจิตใจ และสมองของเรา ที่มันเกิดขึ้น แล้วมันยาก ที่จะควบคุมให้มันหยุด หรือหายไปได้ในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นลองเปลี่ยนวิธีการ ในการคิดให้มีกระบวนการของ การทำความเข้าใจ ในเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ให้ง่ายขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง

ด้านความสัมพันธ์ ในทุกๆความสัมพันธ์ กับคนที่อยู่รายล้อมตัวเรา เคยสังเกตุมั้ย ไม่มีใครที่รู้สึก สบายตัวหรือสบายใจ เวลาที่ต้องอยู่กับคน ที่มักจะเรื่องมาก เข้าใจต่อสิ่งต่างๆยาก ไม่เปิดใจหรือเปิดตา มองถึงเรื่องราวต่างๆ อย่างเข้าใจ ในแบบของความรู้สึกหรือความคิด ของคนอื่นๆบ้าง แต่เลือกที่จะมอง และเข้าใจในแบบ ของตัวเองเท่านั้น

ดังนั้นมันจึงทำให้ บุคคลที่ต้องอยู่กับเรานั้น ไม่รู้สึกที่จะต้องการ ใช้เวลากับเรา เพราะมั้นจะ ทำให้คนเหล่านั้น รู้สึกเบื่อหน่าย และเหนื่อยกับการที่จะต้องมาอธิบาย ในการกระทำของเค้า เพื่อสร้างความเข้าใจให้เรา ทั้งๆที่เรานั้น ไม่คิดที่จะเปิดใจหรือ พยามยามที่จะเข้าใจ

ถ้าคุณมีความต้องการ ให้คนที่อยู่ข้างๆเรานั้น รู้สึกไม่กดดัน และรู้สึกสบายใจ ลองเปิดใจและ เปิดมุมมองของความคิด ให้เข้าใจต่อสิ่งอื่นๆให้ง่ายขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่แค่ ส่งผลให้กับคนอื่น เท่านั้น มันยังส่งผลให้เรานั้น มีความสบายใจ และมีความสุข ในช่วงของเวลาที่เรานั้น ได้ใช้ร่วมกันกับ คนอื่นๆด้วย

เปิดตาเปิดใจ

บทส่งท้าย

มุมมองของชีวิต ที่คุณเริ่มมองและ พยายามที่จะเปิดใจ ที่ยอมที่จะเข้าใจ ในหลากหลาย เรื่องราวที่ผ่านมา ที่ได้พบได้เจอ ถ้าคุณยอมที่ จะปรับเปลี่ยนตัว ของคุณเอง ประโยชน์ที่ได้รับนั้น ไม่ใช่คนอื่นไกล มันก็คือตัวของคุณเอง คุณจะได้ค้นพบว่า การใช้ชีวิตของคุณ ในแต่ละวันนั้น มันง่ายขึ้น ไม่วุ่นวายไม่ปวดหัว และดีต่อสุขภาพจิต ของตัวเอง

บางครั้งเรื่องบางเรื่อง ก็เป็นเรื่องที่ ค่อนข้างที่เข้าใจได้ยาก แต่เชื่อสิว่าไม่มีสิ่งไหน เรื่องไหนที่เกิดขึ้น กับคุณแล้วจะไม่มี ที่มาและที่ไป มันย่อมมีเหตุ และผลเสมอ บางครั้งการพยายาม ที่หาคำตอบก็อาจจะ ไม่ใช่ทางออก ที่ดีเสมอไป ลองใช้หลักของธรรมชาติ ก็อาจจะทำให้ คุณเองเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

หน้าที่ ในการใช้ชีวิตต่อสังคมโลก

ทุกชีวิตที่ได้ เกิดมาบนโลกใบนี้ ล้วนมี หน้าที่ ที่ติดตัวมาทุกคน หน้าที่คืออะไร? หน้าที่คือ กิจที่จะต้องทําด้วยความรับผิดชอบ  (ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน)   ดังนั้นเมื่อมีหน้าที่ ก็ต้องมี ความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ ที่มีต่อชีวิตของตนเอง อย่างเข้าใจและทำอย่างถูกต้อง โดยที่ไม่สร้างการกระทำที่ ส่งผลกระทบกับบุคคลอื่น

บทบาทความรับผิดชอบ ต่อชีวิตของแต่ละคนนั้น ย่อมแตกต่างกันออกไป เพราะวิถีการดำเนินชีวิต ของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน ไม่มีใครที่จะสามารถ บอกได้ว่า คุณต้องทำอย่างไร ถึงจะเรียกว่าคุณ ได้รับผิดชอบต่อหน้าที่ ที่เป็นอยู่นั้น ได้อย่างถูกต้อง หรือทำมันได้ถูกทาง อย่างที่มันควรจะเป็น

ความรับผิดชอบ

หน้าที่ ความรับผิดชอบ ต่อชีวิต ถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน

หน้าที่ต่อชีวิต ด้านนอก ภายนอก คือ หน้าที่บทบาท ความรับผิดชอบ ของชีวิตที่มีต่อ สังคมเพื่อนมนุษย์ ที่อยู่ในโลกเดียวกัน  ครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ครูบาอาจารย์ สิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจ และจิตวิญญาณ หรือแม้กระทั่ง ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ที่อยู่รายรอบตัวเรา

ในทุกๆช่วงเวลา ของชีวิต จะนำพาเราให้ได้ พบเจอกับหน้าที่ ที่เราต้องรับผิดชอบ บางครั้งบางช่วง หน้าที่อาจจะมาถึง โดยเราไม่รู้ตัว หรือไม่ได้เตรียมรับมือ มาก่อนก็เป็นได้ ดังนั้นการเตรียมตัว หรือการเรียนรู้เพื่อปรับตัว จึงเป็นหัวใจสำคัญ แนวทางหรือรูปแบบ ที่เป็นตัวอย่าง มีให้เห็นและ ให้ได้เรียนรู้มากมาย

แบบอย่างหรือตัวอย่าง เป็นองค์ประกอบ ของความคิดที่สามารถนำ ไปปรับประยุกต์ใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับ หน้าที่และความรับผิดชอบ ที่เรานั้นจะต้อง เป็นผู้เลือก ที่จะกระทำ เพื่อแสดงถึง ความรับผิดชอบ ต่อสิ่งต่างๆที่อยู่ ภายนอกรอบตัวเรา การเข้าใจถึงหน้าที่ และบทบาทที่เป็นอยู่ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะทำให้เรานั้น เข้าใจมากขึ้นว่า เราควรต้องทำอย่างไร

safe the world

หน้าที่ต่อชีวิต ด้านใน ภายใน คือ หน้าที่และบทบาท ที่เราจะต้องรับผิดชอบ ที่มีต่อ ร่างกาย จิตใจ ความคิด การกระทำที่จะส่งผลถึง ตัวเราโดยตรง ความรับผิดชอบ ที่มีต่อร่างกาย การดูแลเรื่องสุขภาพ ที่ต้องได้รับการเอาใจใส่ เพื่อเป็นการรักษา และขอบคุณร่างกาย ที่ได้เติบโต และได้ก้าวข้ามผ่าน สิ่งต่างๆ มาด้วยกัน

ภาวะของจิตใจ และความคิด ที่เป็นตัวตน ของเรานั้น เป็นสิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่า พื้นฐานของชีวิต ของคนๆนั้น เป็นอย่างไร จิตใจและความคิด เป็นตัวนำทางชีวิต ของเรานั้น ให้ก้าวเดินไปในแบบ ที่แตกต่างกัน จิตใจดีความคิดดี ย่อมส่งเสริมหรือ นำทางให้คนๆนั้น ได้พบเจอกับสิ่งที่ดีๆ และมีคุณค่ากับชีวิต

ความรับผิดชอบที่ได้ ก่อเกิดขึ้นจากภายใน ที่ควรจะต้องสร้าง ให้มีในทุกๆคน เพื่อเป็นการสร้าง พื้นฐานที่ดี ที่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่ไม่ก่อให้เกิด ปัญหาต่อสังคม ต้องเรียนรู้ที่ รู้จักที่จะรักตัวเองให้เป็น เรียนรู้ที่จะต้องรับรู้ว่า ทุกการกระทำที่เรานั้นได้กระทำออกไป  เรานั้นจะต้องเป็น ผู้รับผิดชอบเสมอ

ความสงบสุข

บทส่งท้าย

ทุกๆสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ต่างล้วนมีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการสร้าง การอยู่ร่วมกัน ของสรรพสิ่งบนโลกนี้ ให้มีไว้ซึ่งความสงบสุข เพื่อทำให้โลกใบนี้ เป็นโลกที่น่าอยู่ และเป็นสถานที่ ที่ไม่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลาไปมาน้อยแค่ไหนก็ตาม ความสุขสงบก็จะ เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เมื่อทุกคน รู้จักความรับผิดชอบที่มี ต่อหน้าที่ของตัวเอง

หลากหลายสถานการณ์ ความวุ่นวายไม่สงบ มักจะเกิดได้อยู่เสมอ ถ้ามีการกระทำ ที่ละเลยต่อหน้าที่ ละทิ้งซึ่ง ความรับผิดชอบ ที่มีว่าจะต้องทำอย่างไร หรือแม้กระทั่งไม่ใส่ใจ ในการกระทำของตัวเอง ว่าจะส่งผลกระทบที่ สร้างความเดือดร้อน ให้กับสังคมโลก มากน้อย เพียงใด จนบางครั้งนำไปสู่ ปัญหาที่ใหญ่จนเกินที่จะแก้ไข

เริ่มต้นง่ายๆ ในเรื่องความรับผิดชอบ ในบทบาทหน้าที่ ของตัวเองซึ่งเป็นเรื่อง ที่ใกล้ตัวที่สุด และควบคุมจัดการ ได้ง่ายที่สุด ชีวิตของตัวเรา เรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเอง เป็นภาระ หรือสร้างปัญหา ให้กับสังคม หรือคนอื่นๆ

ในทางกลับกัน ถ้าเรามีโอกาส ได้รับหน้าที่ ที่มีประโยชน์ต่อสังคม ก็ยิ่งต้องรับผิดชอบ ให้ดีมากขึ้นทวีคูณ คำนึงถึงประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหัวข้อต้นๆ เพื่อทุกคนจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสงบสุข

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Hand to Toe Touches

0

Beginner โยคะอาสนะ ในการสร้าง หน้าท้องที่แข็งแรง

Hand to Toe Touches

Hand to Toe Touches (Core Strength)

การออกกำลังกาย ในท่านี้ เบื้องต้นของ ลักษณะ การบริหาร อาจจะดูเหมือนง่ายๆ ไม่มีอะไร ไม่มีความซับซ้อน ในท่ามากมายนัก แต่รู้หรือไม่ว่า  ผลที่ได้จาก การฝึกท่านี้นั้น มากพอตัวเลย ทีเดียว มันไม่ง่ายเลย ที่เราจะนำมือ ทั้งสองข้าง นั้น ไปแตะปลายนิ้วเท้า หรือแม้กระทั่ง แตะเท้าตัวเอง โดยที่ขาทั้งสองข้าง นั้นเหยียดตึง เพราะการบริหาร ในท่านี้ ถ้าจะให้เท้า และมือ แตะกันถึงได้นั้น จะต้องใช้ พลังกล้ามเนื้อ บริเวณ กล้ามเนื้อท้อง เพื่อเป็นตัวดึง ให้เกิดการสัมผัส

ถ้าผู้ฝึกมี หน้าท้องที่ ไม่แข็งแรง การฝึกในท่านี้ จะยัง ไม่สามารถนำมือ ไปแตะถึงที่เท้าได้ หรือไม่สามารถที่ จะฝึกท่านี้ แล้วค้างท่าได้นานๆ เพราะจะรู้สึก ปวดและหมดแรง บริเวณกล้ามเนื้อท้อง ได้ง่าย นอกจากนั้น ท่าบริหารนี้ ยังช่วยยืดกล้ามเนื้อขา ด้านหลังได้ดี รวมถึงเอ็นร้อยหวาย  ก็ได้รับการกระตุ้น การยืดเหยียด จากการฝึกท่านี้เช่นกัน

hand to toe

Step 1.
  • นอนราบลงที่พื้น ขาเหยียดตรง แยกห่างจากัน ในระดับความกว้าง ของช่วงสะโพก แขนทั้งสอง วางข้างลำตัว
  • ศรีษะวางที่ พื้นผ่อนคลาย ไม่เกร็งลำคอ ยกขาทั้งสองข้าง เหยียดตรง ส่งขึ้นหาเพดาน กระดกข้อเท้า เข้าหาลำตัว
  • ถีบส้นเท้า ส่งขึ้นหา เพดาน เพื่อยืด เอ็นร้อยหวาย นิ้วเท้าทั้งสิบ เกร็งกระชับ

hand to toe 2

Step 2.
  • ส่งแขนชี้ตรง ขึ้นหาเพดาน แขนตึง ไม่งอข้อศอก วาง ฝ่ามือทั้งสอง หันเข้าหา ไว้ที่หน้าแข้ง ยกลำตัว ท่อนบนขึ้น  ยกศร๊ษะ ยกหัวไหล่ ให้ห่างจากพื้น โดยที่หลังล่าง ยังกดแน่นติด อยู่ที่พื้น
  • พยายามให้ศรีษะ อยู่ในแนวเดียวกัน กับกระดูกสันหลัง อย่ากดคาง หรือยื่นคางออกมา บริเวณด้านหน้า
  • ขาทั้งสอง เหยียดตึงไม่ผ่อนแรง แขนทั้งสอง เหยียดตึงไม่งอ ลำตัวยกขึ้น ในระดับที่ เตรียมพร้อม
  • พยายามนำ ปลายนิ้วมือทั้งสอง ไปใกล้หรือ สัมผัสกับปลาย นิ้วเท้าให้ได้ มากที่สุด
  • เกร็งหน้าท้อง ประคองหลัง เพื่อช่วยให้ มือไปใกล้เท้า คล้ายกับ การเอื้อมมือ เพื่อไป แตะปลายนิ้วเท้า

ข้อสังเกตุ

สำหรับผู้ ที่เพิ่งเคยฝึก การบริหารท่านี้ และยังมีหน้าท้อง ที่ยังไม่แข็งแรง เริ่มแรกการฝึก มือทั้งสอง อาจจะยังไม่สามารถ ที่จะสัมผัสปลายเท้าได้ ไม่จำเป็น จะต้องกดดัน มากจนเกินไป ใช้ความรู้สึก ให้ส่งไปถึง กล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้ได้ถูก กระตุ้นก่อน เป็นอันดับแรก  หลังจากฝึกไปบ่อยๆ และกล้าเนื้อท้อง มีความแข็งแรงมาก ขึ้นแล้ว การเอื้อมมือ เพื่อให้แตะปลายเท้า ก็จะไม่ไกลอีกต่อไป

การฝึกเพื่อ จะเห็นผลได้ดี จำเป็นจะต้อง เกร็งหน้าท้อง และยกลำตัวส่วนบน ให้ลอยเหนือพื้น ตลอดการฝึก หรืออาจจะใช้อุปกรณ์ ที่ช่วยป้องก้นบริเวณหลังล่าง ไม่ให้รับแรงกดมากจนเกินไป  Restore Strong Core & Back Kit เป็นตัวช่วยที่ดี ตัวหนึ่งที่อยากแนะนำให้ผู้ฝึกใหม่ นำมาเป็นอุปกรณ์ในการฝึก

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

สำหรับผู้ที่ฝึกแล้ว จนหน้าท้อง มีความแข็งแรงมากขึ้น ลองเพิ่มระยะเวลา ในการฝึกอยู่ในท่า ให้นานขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการกระตุ้น  การเกร็งหน้าท้อง ให้ลึกขึ้น หรืออาจเปลี่ยน การเคลื่อนไหว เป็นลักษณะ สลับขาและมือ ให้สัมผัสกัน ในฝั่งตรงกันข้าม นิ้วมือข้างซ้าย แตะปลายเท้าขวา นิ้วมือข้างขวา แตะปลายเท้าซ้าย หรือเพิ่มความสูง ของการสัมผัสเท้า จากเดิมสัมผัส แค่ปลายนิ้วเท้า อาจจะเพิ่มตำแหน่ง การสัมผัสให้สูงขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bicycle Crunch

0

Beginner โยคะอาสนะ ในการสร้าง หน้าท้องที่แข็งแรง

Bicycle Crunch

Bicycle Crunch ( Core Strength )

ท่าออกกำลังกาย ปั่นจักรยานในอากาศ ท่านี้เป็นการบริหารที่ มีผลต่อหน้าท้องใน ส่วนหน้าปกติ และหน้าท้อง ในส่วนลึก ได้อย่างเห็นผล สร้างความแข็งแรงให้ กับกล้ามเนื้อ เพราะจะต้องเกร็ง กล้ามเนื้อท้อง ตลอดเวลาในช่วง ที่บริหาร เป็นลักษณะ การบริหาร ที่กระตุ้นกล้าม เนื้อท้อง ไล่ลงมา จนถึงบริเวณ กล้ามเนื้อท้องด้านล่าง และด้านข้าง ได้เป็นอย่างดี

และเนื่องจากต้องมี การยกเท้าสลับไปมา จึงทำให้ เนื้อหน้าท้อง ในบริเวณกล้ามเนื้อตาม แนวขวางของ ลำตัวได้ถูก กระตุ้นไปด้วย บริเวณต้นขา ที่ต้องยกไว้เสมอ ตลอดช่วง การบริการ ส่งผลให้กล้าม เนื้อต้นขานั้น กระชับขึ้น บริเวณแกน กลางของ ลำตัวที่ต้อง เกร็งกระชับ เพื่อช่วยในการทรงตัว นั้นได้ถูกตุ้น และบังคับให้ทำงาน อย่างหนัก เพื่อควบคุมให้ลำตัวนั้น ให้อยู่ในจุดที่สมดุล

Bicycle Crunch 1

Step 1.
  • เริ่มต้นด้วยการ นอนราบลงที่พื้น โดยให้หลับส่วนล่างติดที่พื้น
  • งอเข่าทั้งสอง หัวเข่าชี้ขึ้น เท้าวางแนบที่พื้น
  • มือทั้งสอง แตะเบาๆ บริเวณหลังใบหู กางข้อศอกออก ด้านข้าง
  • เกร็งแกนกลางลำตัว ยกลำตัวส่วนบนขึ้น รักษาระดับของ กระดูกสันหลัง ให้มั่นคง
  • หลังส่วนล่าง แนบพื้น ประสามือที่แตะหลังใบหู ให้แตะให้เบาที่สุด ไม่เกร็งคอ มากจนเกินไป
  • ยกหน้าแข้งขึ้น ให้หัวเข่า เป็นแนวขนาน  90 องศา

Bicycle Crunch 2

Step 3.
  • ลมหายใจออก เริ่มการปั่นจักรยาน
  • ดึงหัวเข่าขวา และข้อศอกข้างซ้าย เข้าหากัน บิดลำตัวท่อนบนไปด้านขวา
  • ชาซ้ายเหยียดตรง แต่ไม่ติดพื้น ในระดับที่สูงกว่า ระดับสะโพก
  • ยกลำตัวส่วนบน ตลอดช่วงการบริหาร
  • ทำซ้ำไปมา ประมาณ 20 ครั้ง ครั้งละ 2 Set

ข้อสังเกตุ

ข้อที่ควร สังเกตุเวลาที่ ฝึกบริหารในท่านี้ ในช่วงที่ต้องบิดลำตัว สลับไปมา พยายามควบคุม สะโพกให้ เป็นแนวขนาน ไม่ให้หมุนตาม ตัวไปกับการบิดตัว และต้องพยายาม ควบคุมให้ บริเวณ หลังล่างนั้น ติดอยู่ที่พื้น ตลอดเวลาในการบริหาร เพื่อให้หัวเข่าและ ข้อศอกนั้น ใกล้กันมากที่สุด ให้ใช้การยกลำตัว และการบิดตัว เป็นตัวนำ ไม่ใช้การดึง ลำคอหรือศรษะ เพื่อทำให้ข้อศอก และหัวเข่า นั้นใกล้กัน ให้เน้นใน เรื่องการบิดตัวเป็นหลัก

สำหรับผู้ที่เคยฝึกโยคะ

ผู้ฝึกที่ ต้องการที่จะะเพิ่ม ความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อ มากขึ้น ลองใช้วิธีในการ ค้างท่าโดยการ เกร็งหน้าท้องค้างไว้ ในเวลาที่บิด หรือมุนตัว ไปซ้ายและขวา เพื่อเป็นการ กระตุ้นกล้ามเนื้อ ให้ทำงานให้มากขึ้น หรืออาจจะใช้อุปกรณ์ ประกอบเข้าช่วย ก็คือ ลูกบอลครึ่งวงกลม (Bosu Ball) ก็สนุกไปอีกแบบ

ใช้การฝึกจาก ลูกบอลครึ่งลูก ( Bosu Ball ) โดยการนอนราบ ให้หลังส่วนล่างนั้น อยู่ที่ลูกบอล แล้วจัดสมดุล ให้มั่นคง แล้วจึงเริ่ม ทำการปั่นจักรยาน ในอากาศ ด้วยการทรงตัว บนลูกบอล ซึ่งการออกกำลัง โดยใช้อุปกรณ์นี้ จะยิ่งช่วยเพิ่ม ความยาก ให้กับกล้ามเนื้อ ได้มากขึ้นไปอีก เพราะนอกจาก การเกร็งหน้าท้อง เพื่อช่วยไม่ให้ ลำตัวส่วนบน และขาทั้งสอง ไม่แตะพื้นแล้วนั้น

การทรงตัวเพื่อ ปรับสมดุล ให้อยู่บนลูกบอล โดยที่ไม่ตก ยิ่งเพื่อความยาก มากขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้าผู้ที่ฝึกท่า ปั่นจักรยานในอากาศ ที่พื้นจนชินแล้ว ลองใช้การฝึกโดย ใช้ลูกบอลเป็น ฐานในการทรงตัว จะยิ่งเพิ่ม ความท้าทาย และยิ่งกระตุ้น กล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้ทำงานหนักขึ้น กว่าเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Beginner โยคะ อาสนะในการสร้าง ขา ที่แข็งแรง

0

 

Beginnerโยคะอาสนะในการสร้างขาที่แข็งแรง

Beginner โยคะ ขา

Yoga Asana & exercise

ในการฝึกโยคะ ขา ถือส่วน ที่สำคัญ ของร่างกาย ที่ต้องมี การฝึกและบริหาร เพื่อให้มี ความแข็งแรง และมีความมั่นคงเป็นพื้นฐานอันดับต้นๆเพราะขาจะถือเป็นจุดของร่างกาย จุดแรกในการฝึกโยคะ อาสนะที่เกี่ยวกับ การสร้างความสมดุล (Balancing Pose) ที่สร้างความมั่นคงเพื่อนำไปสู่การต่อยอด ของการฝึก ในระดับต่อๆไป

ผู้ที่เริ่มฝึกโยคะ หรือ ผู้ที่ฝึกโยคะ อยู่เป็นประจำ จะสังเกตุได้ว่า ร่างกาย ในแต่ละส่วน จะมีความแข็งแรงไม่ว่าจะเป็น ขา หัวไหล่ แขน หน้าท้อง เป็นต้น จะมีการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ถ้าฝึกอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญ กับการฝึกอย่างแท้จริง เพราะในการฝึก โยคะ นั้นอาสนะที่มี หลากหลายรูปแบบ ได้ถูกคิดค้น และถูกสร้าง ขึ้นมาเพื่อทำ ให้ผู้ฝึก มีร่างกายและสุขภาพ ที่แข็งแรง

อาสนะโยคะ และการบริหาร ด้านล่างที่ ได้นำมานั้น เป็นตัวอย่าง สำหรับการ บริหารขา เพื่อให้ ผู้ที่สนใจ ได้นำไป ลองฝึกกันดู ช่วงแรกๆอาจจะ รู้สึกว่า บางอาสนะจะดูยาก หรืออาจจะยัง ไม่เข้าใจมากนัก แต่หลักๆที่ ผู้เขียน ขอแนะนำ คือให้ฟังเสียงร่างกาย ของตัวเองเป็นหลัก ว่าในการฝึกแต่ละท่านั้น ผู้ฝึกรู้สึกเป็นอย่างไร

ควรให้เวลา กับร่างกาย ให้เค้าได้เรียนรู้ และเข้าใจว่า เราต้องการสื่อสาร อะไรกับร่างกาย เป็นหลัก เพราะร่างกายเป็น สิ่งมหัศจรรย์มาก ร่างกายของ แต่ละคน มีการพัฒนา ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ ความพร้อม และการเรียนรู้ ในหลายๆอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ เพื่อเราเริ่มฝึก โยคะ ไปเรื่อยๆนั้น จะทำให้เรารู้จักร่างกาย ของเรามากขึ้นนั่นเอง และคุณจะค้นพบได้ว่า ร่างกายของคุณนั้น มหัศจรรย์ขนาดไหน

Goddess Squat

Goddess Squat

อธิบายเพิ่มเติม

Warrior

Warrior 2

อธิบายเพิ่มเติม

High Lunge Pose

High Lunge Pose

อธิบายเพิ่มเติม

 

 

 

Wall Sit

  • เริ่มต้น ยืนห่างจากกำแพง โดยให้เท้าห่าง จากกำแพง ประมาณ 2 ฟุต
  • เกร็งกล้ามท้อง เอนหลังชิดกำแพง ค่อยเลื่อนตัวลง จนต้นขา ขนานกับพื้น
  • หัวเข่า ข้อเท้าตรงกัน หลังแนบติดกำแพงตลอด
  • ค้างท่าให้นานเท่าที่ทำได้ 
  • ระวังอย่าให้ ก้นอยู่ต่ำ กว่าระดับ ต้นขา
  • ออกจากท่าช้าๆ โดยการเลื่อนตัวขึ้น ไปตามแนวกำแพง กลับสู่ท่าเริ่มต้น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง