สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ เมื่อลงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องของจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเวปไซต์ และปริมาณที่ยังค่อนข้างน้อย ซึ่งจะมีอยู่อย่างนึงที่สำคัญ ที่ทำให้คุณไม่เคยพลาดในข้อมูลต่างๆที่มี เช่น Host (พื้นที่ในซอฟแวร์เวบไซต์ของคุณเอง) โปรแกรมวิเคราะห์เว็บไซต์ และโปรแกรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นเครื่องมือในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่เรีอยกกันว่า KPIs In Affiliate Marketing
ซึ่งจากสถิติของเว็บไซต์ ที่มีทั้งหมดนั้น KPIs เป็นเครื่องมือที่ใช้ ในการจับวัดประเมินผล ที่มีประโยชน์สำหรับนักการตลาดออนไลน์ ประโยชน์ที่สำคัญของเครื่องมือเหล่านี้คืออะไร?
ประโยชน์ที่สำคัญของเครื่องมือในการจับวัด และประเมินผลเหล่านี้ ของการทำเว็บไซต์ที่มีและน่าสนใจ ที่มีประโยชน์ต่อนักการตลาดธุรกิจออนไลน์ คือ เพื่อทำให้คุณนั้นเข้าใจ การทำงานของธุรกิจออนไลน์ และเข้าใจในกับกลยุทธ์ที่สำคัญ ในเรื่องการเพิ่มรายได้ จากการทำธุรกิจ Digital ให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างง่ายขึ้น
ด้วยการกำหนด KPIs ให้ชัดเจนและบ่งชี้ประสิทธิภาพหลักๆที่สำคัญ ของธุรกิจ สร้างจุดการมองเห็น เพื่อช่วยในการตัดสินใจ อย่างฉลาดและมีชั้นเชิง เกี่ยวกับทิศทาง ของเนื้อหาของงาน ที่ทำในปัจจุบันทั้งหมด
นักการตลาดออนไลน์ที่ดี หมายถึง พวกเค้าเหล่านั้น ต้องเข้าใจในการวิเคราะ์ และการตัดสินใจ เกี่ยวกับเว็บไซต์ ,ช่องทาง Social Media, ช่องทางเครือข่ายออนไลน์, และโปรแกรมที่ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่เลือก ความสำคัญของ keywords ซึ่งกลยุทธ์เนื้อหา ทุกๆอย่างเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อน และช่วยพัฒนางานของคุณ ให้ดีที่สุด
เริ่มต้นในการทำตลาดออนไลน์ให้ที่ดีที่สุด ด้วย KPIs In Affiliate Marketing
1.รายได้
โอเคอย่าเพิ่งหัวเราะ ในเรื่องของรายได้ ที่แสดงออกจากผล KPIs Affiliate Marketing จะมีความชัดเจนมากว่า ในแต่ละวัน ผู้ประกอบการทุกคน จะทราบได้ว่ามีเงิน เข้ามามากน้อยแค่ไหน?
และอีกอย่างซึ่งเป็น เรื่องที่แน่นอนว่า นักการตลาดออนไลน์ ที่มีประสบการณ์ และคล่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มายาวนาน มักจะมีความสามารถ ในการเพิ่มประสิทธิภาพ สำหรับรายได้ได้ดี ดังสำนวนที่ว่า Where the rubber hits the road. (เวลาจะเป็นบทพิสูจน์ เมื่อมันมาถึง และคุณจะได้รับรางวัล จากการทำงานหนักของคุณ)
อย่างไรก็ตามในบรรดา นักการตลาดออนไลน์ ที่มีต้องการและมีความหลงใหล ในชั้นเชิงทุกประเภท เช่น การคลิกการเข้าชม อัตราการได้รับอีเมล อัตราการเติบโตของผู้ติดตามใน Twitter และความเร็วในการโหลดเวบไซต์นั้น เป็นเรื่องปกติ
แม้ว่าเครื่องมือ ในการจับวัด ทั้งหมดเหล่านี้จะมีความชัดเจน เรื่องข้อมูล ในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ และการตลาดได้ดีแล้วก็ตาม แต่ขอแนะนำว่า อย่ามุ่งเน้นจนมากเกินไป เกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ สิ่งที่ควรคิด และนำมาตัดสินความสำเร็จในการทำตลาดออนไลน์ของคุณ ก็คือ รายได้
สิ่งที่ทำให้นักการตลาดออนไลน์ ที่ได้รับประสบความสำเร็จ ที่แตกต่างกันคือ จำนวนยอดขาย และมูลค่าในการสั่งซื้อที่วัดผลกันในเรื่องของค่าเฉลี่ย ของใครที่อยู่ในระดับสูง สิ่งนี้แหล่ะที่เรียกว่า เค้าเหล่านั้นมีรายได้ที่สูง
3.จำนวนผู้เข้าชม
การสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต ไม่สามารถทำได้หากไม่มีการเข้าชมเวบไซต์ คุณสามารถสร้างการเข้าชมเวปไซต์จากช่องทาง Social Media โดยการซื้อการเข้าชมผ่านหลายช่องทาง แต่แหล่งที่มาที่สำคัญที่หนึ่ง และได้รับความนิยมสูงสุดนั่น คือ การเข้าชมจากเครื่องมือค้นหาที่มีอยู่ทั่วไป (Organic Search Engine Traffic)
ปริมาณที่มีผู้เข้าชมในเวปไซต์ เป็นสิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด เนื่องด้วยเป็นบริการที่ฟรี และวิธีการค้นจากผู้เยี่ยมชมที่มาจากเครื่องมือค้นหา (Search Engine) โดยผ่านการใช้คำหลัก (Keyword) ที่เป็นคำเฉพาะ ซึ่งเป็นการแสดงผล ที่ได้ผลที่ดีในการทำเว็บไซต์ของคุณ
รายละเอียดตามคำ จำกัดความ ที่ผู้เข้าชมเวปไซต์กำลังมองหา จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในการนำคำเหล่านั้นมาสร้างเป็นเนื้อหา และขยายความคำหลักเหล่านั้น ให้มีอยู่ในเวปไซต์ของคุณ
เครื่องมือที่ใช้งานได้ฟรีคือ Google Search Console เครื่องมือตัวนี้จะมีความสามารถ ในตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณนั้น ไม่ได้มีเกิดข้อผิดพลาดในการรวบรวมข้อมูล และปริมาณของคำหลัก ที่ใช้ค้นหาของ ที่ผู้เยี่ยมชมเพื่อเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณนั้น เป็นอย่างไร
จากนั้นคุณสามารถ สร้างเนื้อหาเพิ่มเติม สำหรับคำหลักที่เกี่ยวข้อง หรือใกล้เคียง เพื่อการขยายขอบเขต ของเนื้อหาที่เป็นเฉพาะเรื่อง ในเวบไซต์ของคุณเอง และยังสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ที่คุณสามารถนำมาโปรโมต ให้ตรงสำหรับเนื้อหาที่คุณชื่นชอบ
4.Clicks
ปริมาณการคลิกเป็นผล KPIs ในการประเมินธุรกิจทางการตลาดออนไลน์ที่สำคัญ เป็นเรื่องที่แน่นอน ที่อาจจะมีบางคนคิดต่างว่า ปริมาณในการคลิกเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ที่สำคัญที่สุด สำหรับความพยายาม ทางการตลาดออนไลน์
จำนวนการคลิกลิงก์ ในธุรกิจออนไลน์ของคุณบ่งบอก ถึงจำนวนผู้ที่คุณได้เข้าถึงผู้ที่สนใจ ในผลิตภัณฑ์ออนไลน์ของคุณ โดยผ่านช่องทางการส่งเสริมการขายต่างๆ โดยก่อนอื่นคุณจะต้องสร้างจำนวนคลิกที่มี ความเกี่ยวข้องกับเวบไซต์ของคุณ ว่าเพียงพอต่อการสร้างรายได้หรือไม่?
จากนั้นนำจำนวนคลิก ที่แสดงทั้งหมด ในระบบ Digital ของคุณ เข้าสู่ระบบที่ช่วยจับวัด และวิเคราะห์ข้อมูล เพิ่มเติมเช่น จำนวนคลิกทั้งหมดบนลิงก์ ปริมาณจำนวนการขาย, พฤติกรรมของการค้นหา ที่เป็นจำนวนคลิก ที่มีส่งผลในเรื่องการขาย การมีส่วนร่วมต่อลิงก์ที่มีความเกี่ยวข้องกัน และคุณก็จะมีจุดชุดข้อมูลจำนวนมาก ที่มีใช้เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณ
หากต้องการรับข้อมูลประเภทนี้ คุณจะต้องตั้งค่า Google Analytics หรือใช้ปลั๊กอิน เพื่อจัดการและติดตามลิงก์พันธมิตรของคุณเช่น Thirsty Affiliates สำหรับไซต์ WordPress
5.EPC (รายได้ต่อคลิก)
EPC เป็นผลมาจากรายได้ของ Affiliate โดยเฉลี่ยต่อการคลิกของผู้เข้าชม 100 ครั้งจาก Affiliate ทั้งหมดในโปรแกรมของผู้ที่ขายผลิตภัณฑ์ ดังนั้น EPC จึงช่วยให้ บริษัทฯที่เกี่ยวข้องกันได้ทราบว่า ช่องทางการติดต่อทางใดที่ดึงความน่าสนใจ ในผลิตภัณฑ์ และเว็บไซต์ของผู้ขายทำงาน ได้ดีเพียงใด
ณ ปัจจุบัน และด้วยเหตุนี้จึงเป็นบ่งบอก ถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ ที่ชัดเจน
เครือข่ายในการทำตลาดออนไลน์ ที่เป็นมาตรฐานและเป็นโปรแกรม ที่ส่งเสริมด้านการขาย เช่น ShareASale ช่วยให้คุณสามารถจัดอันดับ ผู้ขายตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ และ Products ที่เกี่ยวข้องกัน และ EPC ยังทำให้คุณสามารถ ที่จะเลือกผู้ขาย ที่มียอดขายที่ประสบความสำเร็จ เข้าสู่เว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายขึ้น
เมื่อคุณได้โปรโมทตัวสินค้าได้สำเร็จ และสร้างยอดขายได้แล้ว คุณยังสามารถใช้ EPC เพื่อวัดประสิทธิภาพทางการตลาดของคุณเอง สามารถที่จะโยงเกี่ยว ให้ข้องกับ บริษัทฯอื่นๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ อื่น ๆได้ดีอีกด้วย
สมมติว่าคุณกำลังโปรโมตผลิตภัณฑ์ของผู้ขายและ EPC ของผู้ขายรายนั้นคือ 4,000 บาท ตอนนี้สมมติว่าคุณสร้างยอดขายได้ 10 ครั้งโดยมีมูลค่าเฉลี่ย 8,000 บาท กับผู้เยี่ยมชม 100 คนล่าสุด ที่เป็นการส่งผ่านจากทางเวปไซต์ของคุณถึงผู้ขายจากทางลิงก์ของคุณ
ดังนั้น EPC ส่วนตัวของคุณสำหรับผู้ขายรายนั้นจะเป็น (10 * 8,000): 100 = 80 บาท ซึ่งต่ำกว่า EPC ทั่วไปอย่างมาก ดังนั้นคุณจึงได้รับรู้ว่า คุณจะต้องปรับปรุงโฆษณา หรือหน้า Landing Page ของคุณ เพื่อดึงดูดการเข้าชมที่มีคุณภาพมากขึ้น ไปยังผลิตภัณฑ์ของผู้ขาย เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ของคุณ
6.AOV (มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย)
หรือที่เรียกว่า ค่าเฉลี่ยในการสั่งซื้อ ด้วยการประเมินผลจับวัด ที่มีมูลค่ามากกว่าจำนวนคลิก และ ช่องทางในการติดต่อ หรือ สั่งซื้อหรือ ถ้าลูกค้ามีความสนใจ ว่าเป็นในลักษณะเช่นไร ที่คุณนั้นได้สร้าง ให้กับผู้ขายของคุณ
แม้ว่าโปรแกรมที่ช่วย ในด้านการทำตลาดออนไลน์นั้น มีมากมาย แต่บางโปรแกรม อาจไม่สามารถสร้างยอดขาย ได้มากนัก แต่ก็ยังมีค่าสำหรับคุณหาก AOV อยู่ในระดับสูง
ในความเป็นจริง นักการตลาดออนไลน์ที่ช่ำชอง และมีความชำนาญ จะแสวงหารายได้ จากการสินค้าที่มีราคาแพงซึ่งมียอดขายเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น ก็สามารถสร้างรายได้ได้จำนวนมาก
เพียงแต่ว่า โดยปกติผู้ชมที่จะเข้าชม และเลือกซื้อสินค้าในราคาแพง มักจะมีจำนวนน้อย และมีเงื่อนไข แบบเฉพาะเจาะจงมาก รวมถึงมีเงื่อนไขต่างๆมากขึ้น
แต่ในทางกลับกัน ถ้านักการตลาดออนไลน์เลือกที่จะทำใน สิ่งนี้จำเป็นจะต้อง ใช้ช่วงการเรียนรู้ที่สูงขึ้น และมีความเชียวชาญ ในผลิตภัณฑ์นั้นๆเป็นอย่างดี สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า ที่มีอำนาจในการซื้อที่สูง
บทสรุปเกี่ยวกับวิธีการใช้ KPIs การตลาดออนไลน์
เช่นเดียวกับเรื่องของการใช้ชีวิต ความสำเร็จมีลักษณะ แตกต่างกันไป สำหรับนักการตลาดออนไลน์ทุกคน คุณอาจต้องการมุ่งเน้นไป ที่เกณฑ์ของความสำเร็จที่ แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะ การตลาดออนไลน์ ที่คุณมีในปัจจุบันของคุณ
และเป็นสิ่งสำคัญ ในการเข้าถึงการตลาดออนไลน์ ที่เหมาะกับความต้องการของคุณเอง บางทีคุณอาจมุ่งเน้น ไปที่การเขียนบล็อก และคุณก็เชื่อมโยง โดยทำการตลาดออนไลน์ เพื่อหารายได้ และคุณยังที่จะใช้ส่วนที่เหลือช่วยสำรวจว่า ช่องทางใดที่เหมาะกับคุณ
อย่างไรก็ตาม KPIs การตลาดออนไลน์ บางอย่าง ช่วยกำหนดความสำเร็จของคุณ และเน้นการเปลี่ยนแปลง และต้องพัฒนา เพื่อเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ
และในขณะที่คุณ และโลกของการตลาดออนไลน์ เปลี่ยนแปลงไป KPIs ที่คุณมุ่งเน้นก็เช่นกัน และแม้ว่า จะมีวิธีการจับหรือการวัด ความสำเร็จมากมาย แต่ตัวช่วยเหล่านั้น ที่อธิบายไว้ที่นี่จะช่วยให้คุณ สามารถประเมินสิ่งที่ จำเป็นได้เสมอ