NEUNGRUTAI CHAIYA (BELLE) R&B LAB Group Manager

จากคำสบประมาทและคำดูถูกที่ได้รับในอดีต ได้สร้างแรงบันดาล

ทำให้ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้

บันทึกการเดินทาง

“เบลเป็นคนจังหวัดเชียงราย ที่เติบโตมากับครอบครัว ที่มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เบลมีพี่น้องด้วยกัน ทั้งหมด 4 คน ซึ่งเบลเป็นลูกคนโต (คุณพ่อกับคุณแม่ แยกทางไปทั้งแต่เบลเพิ่ง 3 ขวบ)  สมัยเด็กๆตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงชั้นมัธยม เบลเป็นเด็กที่เด่นในด้านกิจกรรม แต่การเรียนของเบลไม่เคยตกเลย

โดยเฉพาะกิจกรรม ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือสังคม เบลชอบมาก ในสมัยตอน เรียนมัธยมปลาย เบลก็เป็นหนึ่ง ในสมาชิกของ องค์กรที่พิทักษ์ สิ่งแวดล้อมในจังหวัด

เบลเรียนจบ มัธยมปีศึกษาที่ 6 และผลคะแนนทำให้เบล เอ็นทรานส์ติดที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เอกสังคมสงเคราะห์ เพราะเบลมีความใฝ่ฝัน อยากเป็นนักสังคมสงเคราะห์ พอเรียนจบและเบลกำลังเตรียมตัว เพื่อไปเรียนต่อ ทางบ้านก็เกิดปัญหาเรื่องการเงิน เพราะธุรกิจที่บ้านติดปัญหา เนื่องจากมีโรคระบาด จึงทำให้ไม่มีเงินที่ จะส่งให้เบลไปเรียนต่อ

ณ ตอนนั้น เบลไม่ต้องการ ที่จะเป็นภาระ ของทางบ้าน จึงได้ขอโอกาสที่ จะเข้ามาทำงาน ในกรุงเทพฯ ซึ่งในครั้งนั้นเบล ขอบคุณแม่มาก ที่ให้โอกาส เบลก้มลงกราบเท้าแม่ ด้วยรู้สึกขอบคุณ อย่างสุดซึ้ง และ สัญญากับแม่ว่า การไปกรุงเทพ ครั้งนี้ เบลจะไม่ทำให้แม่ ต้องผิดหวัง และเบล จะทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเหลือทางบ้านให้ได้

เริ่มเข้ามาในกรุงเทพฯ ช่วงแรกๆก็หางานทำ แล้วก็สมัครเรียน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อสานต่อความตั้งใจ ที่จะเรียนให้จบ งานที่ได้ทำ โดยได้รับการแนะนำ ให้ทำงานแรกคือ พนักงานเสิร์ฟ ในร้านอาหาร เบลทำต่อเนื่อง ประมาณ 1ปีเต็ม ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย จากนั้นมันเริ่มไปต่อไม่ไหว เบลก็เลยต้องเลือก ที่จะทำงานก่อน จึงทำให้จำเป็น ต้องหยุดเรื่องเรียนต่อ

สุดท้ายมีคนแนะนำ ให้เบลเข้ามาทำงาน ที่โรงแรม Sofitel  Silom เบลก็ลองไปสมัคร แล้วเบลก็ได้ทำงาน ในตำแหน่งแรกเลยคือ พนักงานเสิร์ฟ และเบลก็พัฒนาตัวเอง มาตลอด จนได้รับตำแหน่งเป็น  Bar Manager แต่หลังจากนั้น เบลตัดสินใจ ลาออกเนื่องจาก อยากลองเปลี่ยนงาน ไปทำในโรงแรมต่างๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์

แต่ในที่สุดก็ได้รับโอกาส กลับมาที่เดิม ในตำแหน่ง Food and Beverage Managerเพราะมีความรู้สึกผูกพันธ์ กับสถานที่และ เพื่อนร่วมงาน ซึ่ง ณ เวลานั้น จากโรงแรม Sofitel Silom  ได้เปลี่ยนเป็น โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G ในปัจจุบัน และตอนนี้ เบลอยู่ตำแหน่ง R&B LAB Group Manager ที่เป็น ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวที่ดูแลและ จัดการร้านอาหาร ในโรงแรมและในเครือของกรุ๊ป จนถึงทุกวันนี้ค่ะ”

ประสบการณ์ด้านการทำงานที่น่าจดจำที่สุด เพราะอะไร

“เบลได้มีโอกาส เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และเปิดร้านอาหาร ที่เป็นสไตล์เดียวกันกับ Scarlett Wine Bar & Restaurant (Pullman Bangkok Hotel G) ที่ประเทศพม่า โดยใช้ชื่อว่า Babett (Hotel G Yangon) เบลได้รับหน้าที่ กับทีมงาน เพื่อไปเป็นผู้บุกเบิก และจัดระบบ เพื่อทำให้ร้าน Babett ที่ประเทศพม่านั้นสำเร็จ ตามนโยบาย ของผู้บริหาร ซึ่งเบล และหัวหน้าเชฟ เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก ที่ต้องทำงาน และตัดสินใจร่วมกัน

สิ่งที่ท้าทายคือ ในเรื่องการประสานงาน การถ่ายทอด และการ Set ระบบการจัดการทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยความแตกต่าง ในเรื่องของภาษาที่ใช้ ในการสื่อสาร และพื้นฐานของการทำงาน ที่ต้องใช้เวลา และการทุ่มเท อย่างหนัก เพื่อทำให้ทุกอย่างสำเร็จ และปัจจุบันร้านอาหาร Babett ก็ถือว่า เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและ ได้รับความนิยม ในเมืองย่างกุ้ง”

สิ่งที่จำเป็นต่อสถานการณ์ที่มีเปลี่ยนแปลง

“เราต้องปรับกลยุทธ์ ตลอดเวลา ให้ทันต่อสถานการณ์ อย่างเช่น สถานการณ์ ในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลารวมๆแล้วประมาณ 9 ปี  ร้านอาหารของเรา ไม่เคยเจอ กับสถานการณ์ ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ขนาดนี้ เราต้องดูคู่แข่ง ตลอดเวลา ว่า ณ ปัจจุบัน ได้มีการปรับเปลี่ยน และแก้ไขเป็นไป ในทางใดกันบ้าง เราต้อง สังเกตุเรื่องของ Trend ของลูกค้า ที่มีการเปลี่ยนแปลง

แม้กระทั่งด้านการเมือง รัฐบาลแต่ละยุค ที่ไม่เหมือนกัน ก็มีผลต่อธุรกิจ เราจึงต้องคอยติดตาม และ อัปเดตสถานการณ์ ตลอดเวลา อย่างเช่น ถ้าเริ่มมีข่าวหรือกระแส ของการเปลี่ยนแปลง ที่เกี่ยวกับ สายงานของเรา ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นจริง หรือไม่ ทีมงานของเรา ก็จะต้องมีการวางแผน เตรียมการไว้ทันที เพื่อรองรับกับเหตุการณ์ ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ด้านการตลาด การทำธุรกิจ ฝ่ายไหนสามารถที่จะ Take action ได้เร็วและทันกับสถานการณ์ ย่อมได้เปรียบเสมอ ต้องมีการวางแผน สำหรับอนาคต ให้ไกลไว้ก่อน เราต้องปรับตัว และสามารถทำงาน ภายใต้การเปลี่ยนแปลง ได้ตลอดเวลา”

Khun Belle4

ถ้าคุณย้อนเวลากลับไปได้คุณอยากที่จะกลับไปแก้ไขอะไร

“เบลอยากกลับ ไปเรียนหนังสือให้จบ เพราะเบลมองว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่ ทำให้สังคมยอมรับ เบลมองว่า ในสังคมไม่ว่าจะเป็น ช่วงเวลาใดก็ตาม การศึกษา ยังคงเป็นปัจจัยหลัก ที่สำคัญเสมอ ต่ออนาคตของทุกๆคน ส่วนเรื่อง ประสบการณ์การทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องรองลงมา

โดยเฉพาะกลุ่มคน ที่ไม่รู้จักกันด้วยแล้ว ไม่ว่าจะมี ประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน ความน่าสนใจ หรือแนวโน้มที่ จะตัดสินศักยภาพ หรือความสามารถ ของคนคนนึง ก็ยังคงอยู่ที่ กระดาษ 1 แผ่น การคาดหวัง ที่จะให้เค้าเหล่านั้นเข้าใจเรา มันจึงเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นการศึกษาจึงสำคัญ 

เรื่องที่สำคัญมาก อีกหนึ่งเรื่อง ถ้าในชีวิตนี้ มีโอกาส เบลอยากกลับไป ให้ทันก่อน ที่จะสูญเสียแม่ ถ้าเป็นไปได้อยากกลับไปดูใจ และอยู่ด้วยกัน ในช่วงลมหายใจ สุดท้ายของคุณแม่ “

อะไรคือสิ่งที่คุณชอบทำและให้คุณผ่อนคลายที่สุด

“ในเวลาที่เบลมีเวลาว่าง เบลชอบที่จะ นั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ในห้องเงียบๆ ความรู้สึกผ่อนคลาย ของเบลคือ การได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง เพราะตลอดระยะเวลาชีวิตของเบลนั้น วุ่นวายตลอด ถ้ามีเวลาพักจริงๆ เบลจึงเลือกที่จะ ชอบอยู่คนเดียว จะมีมุมเงียบๆของตัวเอง

ได้อ่านหนังสือที่เบลชอบ หนังสือที่ชอบอ่านโดยส่วนมาก เป็นหนังสือแนว อนุรักษ์สังคม อนุรักษ์ธรรมชาติ เรื่องราวของผู้เสียสละ เพื่อช่วยเหลือสังคม ตัวอย่างเช่น หนังสือที่เขียนโดย อาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ และ คุณชาติ กอบจิตติ ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียน เกี่ยวกับชีวะประวัติ ของ อองซานซูจี ที่ทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในประเทศของตนค่ะ”

แนวความคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้

“เบลเป็นคนที่สงสัย สิ่งที่เกิดขึ้น รอบตัวอยู่เสมอ และเบลเป็นคนที่รักในงานที่ทำ โดยเฉพาะงานปัจจุบัน เบลเป็นคนชอบมีเหตุและผล ในการทำงาน เบลมองว่า งานบริการเหมือนงานศิลป์ มันมีเหตุและผลเสมอ มันมีสเน่ห์น่าหลงใหล เช่น  แก้ว ทำไมต้องวางตรงนี้ ทุกตำแหน่งการจัดวาง มันมีเรื่องราว ให้น่าสงสัย และค้นหาคำตอบอยู่เสมอ

เบลเริ่มต้นการเข้ามาในวงการงานบริการ จากพนักงานเสริฟ ความสนใจของเบล มันมีขั้นมีตอน เบลเป็นพนักงานเสริฟก็จริง แต่เบลก็มีความตั้งมั่นที่จะต้องพัฒนาตัวเอง และสร้างความก้าวหน้าในสายงานที่ทำ เบลเริ่มมองถึงตำแหน่งอื่นๆ ที่สูงขึ้น ว่าเค้าเป็นกันอย่างไร เค้าทำกันอย่างไร พยายามศึกษา และนำมาพัฒนา ให้เป็นไปในแบบของตัวเอง และตั้งเป้าหมาย ด้วยการแข่ง กับตัวเองว่าปีนี้ เบลเป็นพนักงานเสริฟ ปีหน้าเบลจะเป็นกัปตันหรือ อีกประมาณ3ปี เบล จะต้องได้เป็น Supervisor

เบลชอบที่จะ ต้องพัฒนาตัวเองตลอด เบลเป็นคนที่ ถ้ารู้สึกว่าอิ่มตัว หรือเริ่มที่จะไม่มีอะไร ที่จะต้องเรียนรู้ เบลจะเริ่มจะรู้สึกเบื่อ เบลชอบทำงานที่มันยาก และท้าทาย กับความรู้ ความสามารถของตัวเอง อย่างเช่น งานที่เป็นงานโปรเจคใหม่ๆ อันนี้เบลจะชอบมาก โดยเฉพาะโปรเจคที่เบล ไม่มีความรู้เลย จะยิ่งชอบมากเป็นพิเศษ

การหาข้อมูล การหาความรู้เพื่มเติม ถามผู้ที่มีความรู้ เพื่อเพิ่มเติมในสิ่งที่เบลไม่รู้ มันน่าสนใจ เบลไม่เคยอายเลย ที่จะต้องถามในสิ่ง ที่ตัวเองไม่รู้ แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ ใต้บังคับบัญชาก็ตาม เพราะเบลคิดเสมอว่า ด้วยจุดที่เบลยืนอยู่ การเป็นหัวหน้าคน จำเป็นที่จะต้องรู้  ให้มากที่สุด ในสิ่งที่ควรจะรู้  Get into it.”

ช่องทางในการติดต่อและเยี่ยมชมผลงาน Social Media Links: www.randblab.com

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
Chantana.C
Chantana.Chttp://tumdaina.com
Life is about balance. And in this life we need to keep changing and growing to be in balance.

Related Posts

Comments

  1. ดีใจกับคุณด้วยที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักและสนุกกับงานตลอดเวลา และสุดท้ายงานจะตอบแทนคุณเอง
    เรื่องราวของคุณสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆได้แน่นอน เป็นกำลังใจให้ค่ะ

อ่านจบแล้ว เป็น อย่างไร บ้าง ขอความคิดเห็นหน่อยจ้า

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่


Stay Connected

5,624แฟนคลับชอบ
6,783ผู้ติดตามติดตาม

Recent Stories