ผู้ได้รับ จากคนที่ไม่ได้คาดหวัง

ทั้งชีวิตตั้งแต่จำความได้ ในเรื่องของ การเป็น ผู้ได้รับ และผู้ให้ เราจะเป็นผู้ให้ มากกว่า ผู้ได้รับ  เงิน บ้าน รถ ของใช้สิ่งของต่างๆที่มี เป็นการพยายาม และหามา ได้ด้วยตัวเองทั้งนั้น ทำงาน เก็บเงิน หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ของตัวเองทั้งสิ้น ไม่เคยหยิบยืมใคร เพื่อให้ตัวเองได้มี เหมือนกับคนอื่นๆ

การพยายามเริ่มต้น ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เพราะในวิชาที่เรียนเป็น สายวิชาชีพ จึงมีโอกาศได้เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย พร้อมๆกัน เงินที่ได้มาจากการทำงาน ก็มีโอกาศได้ช่วยเหลือ ครอบครัวได้บ้าง ในเรื่องของอาหาร การกินในบ้าน แต่ก็ยังไม่ถึงขนาด เป็นตัวเงิน ที่มากมายนัก แต่ก็พอจุนเจือ ในครอบครัวเพราะมีกันแค่ พ่อ แม่ ลูก

เรียนใกล้จะจบ ก็ต้องสูญเสียพ่อ ที่เปรียบเสมือน ผู้นำในครอบครัว แบบกระทันหัน จากโรคเส้นเลือด ในสมองแตก พอเรียนจบ ก็เริ่มทำงานทันทีเพื่อหาเงิน หลังจากนั้น ก็ทำงานตลอด ทำมาเรื่อยๆจน 5 ปีต่อมาแม่ก็เสียชีวิต จากภาวะโรคหัวใจ ตอนที่แม่ยังอยู่ ความใฝ่ฝันคืออยากจะมีบ้าน เป็นของตัวเอง ก็เลยตัดสินใจ กู้เงินธนาคาร เพื่อทำเรื่องซื้อบ้าน

เพื่อให้เราสองคนมีบ้าน เป็นของตัวเอง แล้วก็ทำสำเร็จ แต่หลังจากที่ สูญเสียแม่แล้ว โดยส่วนตัวเราเอง ไม่ได้ยึดติดกับทรัพย์สิน หรือ สิ่งของภายนอกอยู่แล้ว คิดซะว่าถ้าไม่ตาย ก็หาใหม่ได้ ก็เลยตัดสินใจขายบ้าน เพื่อเคลียร์หนี้สิน กับธนาคารให้หมด เพื่อเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ ในชีวิตอีกครั้ง ในแบบตัวคนเดียว

ทำงานหาเงิน เก็บเงินบ้าง ใช้บ้างตาม สถานะภาพ ตามจังหวะชีวิต ในแต่ละช่วง จนเริ่มมีแฟนเป็นคนต่างชาติ ก่อนหน้าก็มีแฟนนะ แต่คบกันไม่นาน  4-5 ปีก็แยกย้าย สมัยก่อนทำงาน เดินทาง ทำงานต่างประเทศตลอด ไม่ได้อยู่ประเทศไทย แต่หลังจากที่ตัดสินใจ ที่จะทำงานในประเทศไทย ก็ได้เจอกับแฟนคนปัจจุบัน

และก็ได้มีโอกาสทำงาน ประจำที่อยู่ในเมืองไทย ชีวิตเหมือนจะเริ่ม เข้าสู่ภาวะที่เริ่มจะนิ่ง ขึ้นเพราะ ไม่ได้เดินทางไป ไกล ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะใช้ชีวิต อยู่กับงานประจำ ที่ทำอยู่และ ก็ใช้เวลากับแฟน จะมีเดินทางบ้าง ก็ไปพักผ่อน หรือเดินทางไปเที่ยว ในประเทศต่างๆ

หลังจากนั้นชีวิต เจอจุดเปลี่ยน ครั้งยิ่งใหญ่ คือตัดสินใจออกจากงาน ประจำที่ทำอยู่ เนื่องจากภาวะกดดัน กับสถานการณ์ ที่อยู่รอบตัว ในที่ทำงาน จึงทำให้ตัดสินใจลาออก โดยที่ยังไม่ได้มี งานใหม่ มารองรับ งานใหม่ไม่มี เงินไม่มี รายได้อื่นๆไม่มี หางานก็ยังไม่ได้ ภาระก็มีทุกเดือน ที่ต้องจ่าย ต้องรับผิดชอบ ทำยังงัยดี

แฟนจะช่วย เหลืออะไรได้ บ้างมั้ย เรื่องการช่วยเหลือ แฟนมีให้ และทำให้อยู่เสมอ แต่เป็นในรูปแบบ ให้คำปรึกษา เป็นกำลังใจให้ พาไปทานข้าว ซื้อของอร่อยๆ มาทานร่วมกัน ซึ่งมัน ก็เป็นเหมือนกำลังใจ ที่ดีมากอยู่แล้ว ในช่วงที่ต้องเจอกับ ภาวะกดดันแบบนี้

เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต

ช่วงชีวิตที่ต้อง อยู่กับสถาณการณ์ ที่กดดันแบบนี้ มีเหตุการณ์ ที่ไม่ได้คาดฝัน ว่ามันจะเกิดขึ้น และได้เกิดขึ้น กับตัวเอง คือ แม่ของแฟนตัดสินใจ จะช่วยเหลือเรา โดยการโอนเงินมา ให้เราเพื่อช่วย ในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัว ในช่วงที่เรา ยังไม่มีงานทำ คือ ยังไม่สามารถที่จะ หาเงินที่ไหน มาดูแลตัวเองได้

ถึงแม้จำนวนเงิน จะไม่ได้มากมายนัก แต่คุณค่า มันมากมายมหาศาล จนไม่สามารถจะหา คำไหนมา ประเมินคุณค่า ในสิ่งที่แม่แฟน นั้นได้ตัดสินใจ ที่จะทำให้เรา ความรู้สึกที่มี มันไม่สามารถ ที่อธิบายเป็นคำพูดได้ ทั้งชีวิตหาเงิน ด้วย ตัวเองมาตลอด ไม่เคยมีใคร มาหยิบยื่นเงิน ให้โดยที่ไม่ถามถึง เหตุผล ไม่คาดหวัง

เค้ารู้แต่เพียงว่า ต้องการที่จะช่วย และก็จะทำแบบนี้ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วย หรือไม่ โดยที่เราเอง เท่าที่จำได้ ไม่เคยที่จะทำอะไร ให้แม่แฟนเลย ไม่เคยได้ดูแล เพราะอยู่คนละประเทศ ไม่เคยได้คุยกัน นานเกิน 2 คำเพราะว่า คุยกันคนละภาษา ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง

แต่แม่แฟน กลับทำสิ่งนี้ให้เรา เพราะต้องการ ที่จะช่วยเหลือจริงๆ และคิดว่าในช่วงเวลา แบบนี้จะต้องเป็น ช่วงที่ลำบาก สำหรับเราอย่างมาก แน่นอน

บทเรียนที่ได้ครั้งนี้

การเป็นผู้รับ จากคนที่ ไม่ได้คาดหวัง มันเป็นความรู้สึก ที่มีคำถามเกิดขึ้นว่า มีแบบนี้ด้วยหรือ? ในสังคมปัจจุบัน ยังมีคนแบบนี้ อยู่อีกหรือ? เรื่องแบบนี้ เคยได้อ่าน และเคยได้ยินมา แต่ไม่คิดว่าจะเจอ กับตัวเอง พอมาได้เจอ กับตัวเองแรกๆ ไม่เข้าใจ และไม่คิด ที่จะยอมรับความช่วยเหลือ

เพราะเรามองว่า มันไม่ยุติธรรม กับอีกฝ่าย ที่จะต้องเสียสละ นำเงินมาให้กับเรา ที่สำคัญเงินจำนวนนี้ เค้าสามารถ ที่จะนำไปสร้างสิ่งต่างๆ ให้กับชีวิตเค้า ได้อีกหลายอย่าง แต่สุดท้าย เราก็ต้องยอม เข้าใจในเหตุและผล ที่ผู้ให้ได้ตัดสินใจ ที่จะให้ เพื่อเป็นการไม่ทำร้าย และแสดงความเคารพ ต่อการตัดสินใจของผู้ให้

มันเป็นการให้แบบ ไม่มีเงื่อนไข มีแต่ความบริสุทธิ์ใจ บวกกับความตั้งใจ และภูมิใจ ที่ได้มีส่วนช่วย เพื่อจะให้เรา ข้ามผ่านในจุด ที่แย่ที่สุดในชีวิต ซึ่งเราไม่คิดว่า เราจะมีโอกาสได้รับ เปรียบเสมือนเป็น ตัวอย่าง ในการใช้ชีวิต อีกรูปแบบนึง ที่มีคุณค่า ต่อแนวคิดในการใช้ชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับ บุคคลรอบข้าง

ให้แนวคิด ที่ว่า วันหนึ่ง ถ้าเรามีความสามารถ ที่จะช่วยเหลือคนอื่น อย่างลังเล หรือสร้าง เงื่อนไขให้ มากจนเกินความจำเป็น

การช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ในสังคม ไม่ว่าจะมาก หรือจะน้อย เป็นการสร้างพลังงาน ที่ดีช่วยกันส่งต่อ พลังงานดีๆแบบนี้ ให้กระจายอยู่ในสังคม เพื่อความน่าอยู่ และความสงบสุข ที่ก่อตัวขึ้นเล็กๆ ในสังคมที่มีแต่ความวุ่นวาย ในโลกปัจจุบัน

บทความที่เกี่ยวข้อง
Chantana.C
Chantana.Chttp://tumdaina.com
Life is about balance. And in this life we need to keep changing and growing to be in balance.

Related Posts

Comments

อ่านจบแล้ว เป็น อย่างไร บ้าง ขอความคิดเห็นหน่อยจ้า

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่


Stay Connected

5,624แฟนคลับชอบ
6,783ผู้ติดตามติดตาม

Recent Stories