เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ตามกาลเวลา

0

เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ไปตามกาลเวลา ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อยู่ตลอดเวลา การเดินทางของเวลา ที่ไม่เคยหยุดการเคลื่อนไหว เวลาที่ผ่านไปแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็นแค่ เศษเสี้ยววินาที หรือ เป็นเดือน เป็นปี เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา

เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิด จะเปลี่ยนมากหรือเปลี่ยนแปลงน้อย ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ การยอมรับ ความเข้าใจ ต่อประสบการณ์ที่ผ่าน เข้ามาในชีวิต ต่อเหตุการณ์ในชีวิตที่ได้พบเจอ ต่อสภาพสังคม ต่อสิ่งแวดล้อมทางสังคม ที่มีการเปลี่ยนแปลง ว่า จะมีผลกระทบ ส่งต่อมาถึงคนคนนั้น เป็นอย่างไร บางครั้งอาจทำ ให้บางคน เปลี่ยนแปลงไป จนไม่เป็นคนเดิม ก็มีให้เห็น ในสังคมโลกปัจจุบัน

เวลาที่เปลี่ยนไป คนเปลี่ยนอะไรได้บ้าง

เปลี่ยนแปลง สภาพกายภายนอก เป็นลักษณะของ การเปลี่ยนแปลงของ ร่างกายที่ เปลี่ยนแปลงไปตาม ช่วงเวลาของวัย เช่น จากวัยเด็ก เปลี่ยนเข้าสู่วัยรุ่น จากวัยรุ่นเปลี่ยนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จากวัยผู้ใหญ่ ก็เปลี่ยนเข้าสู่วัยของผู้สูงอายุ (วัยชรา ) ซึ่งการเปลี่ยนด้านกายภายนอก ที่เห็นได้อย่างชัดเจน จากการมอง ด้วยสายตา

การดูแลร่างกาย เช่น การดูแลเรื่องอาหาร รับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความกดดันในเรื่อง ของความเครียด ที่สามารถจะส่งผลโดยตรงต่อ สุขภาพ และ ผิวพรรณ ก็สามารถช่วยทำให้ร่างกาย และผิวพรรณ ดูอ่อนกว่าวัยได้

การออกกำลังกาย

อย่างไรก็ตาม ในสังคมปัจจุบัน มีเทคโนโลยีหลากหลาย ที่มีการค้นคว้าขึ้นมา เพื่อที่จะพยายามหยุด หรือชะลอ การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่เป็นตามวัย ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้น้อยที่สุด หรือช้าที่สุดเท่าที่ เทคโนโลยีเหล่านั้น จะสามารถทำได้

เพื่อตอบสนอง ต่อความต้องการ ของคนบางกลุ่มที่ยังรับไม่ได้ กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กับร่างกายของตนเอง และพยายามที่จะ เสาะหา หรือศึกษา หาข้อมูล เพื่อนำมาเป็นตัวช่วยในเรื่อง การชะลอร่างกายตนเอง

เปลี่ยนแปลง สภาพจากภายใน คือ ความคิด จิตใจ ทัศนคติ มุมมองที่ใช้ ในการดำเนินชีวิต การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่จะรับรู้ได้ หรือสัมผัสได้ ว่าคนเหล่านั้น เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ต่อเมื่อ ได้มีการพูดคุย สอบถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ

ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป การเติบโตในด้านความคิด และมุมมองต่างๆในการใช้ชีวิต ของแต่ละคนนั้น มีการเปลี่ยนแปลง ความคิดเห็น ความต้องการเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น พร้อมกับเวลาที่เปลี่ยนไป การให้ความสำคัญ กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว จะเริ่มแคบลง จะเริ่มให้ความสำคัญ กับคนหรือสิ่งของ ที่มีความจำเป็น ต่อการใช้ชีวิตมากขึ้นเท่านั้น

การพักผ่อนที่เพียงพอ

เวลาที่เปลี่ยนแปลง ทำให้คนเริ่มเห็นแก่ตัวมากขึ้น ใช่หรือไม่

การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่อง การให้ความสำคัญ  กับคน หรือสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว โดยการเริ่มสร้าง ขอบเขตที่แคบลง หรือเริ่มที่จะลด ความสำคัญในบางสิ่ง บางอย่าง หรือกับบางคนที่ ไม่ได้มีความสำคัญ หรือจำเป็นจะต้องนำมา เป็นตัวแปรในชีวิต ที่มีผลส่งกลับมา ทำให้การใช้ชีวิตนั้น มีความยุ่งยาก หรือวุ่นวายมากขึ้น

เปรียบได้เหมือนสำนวน สุภาษิต “มากหมอมากความ” ตามพจนานุกรม ไทย-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน  ที่กล่าวไว้ ในเรื่องของความวุ่นวาย ในการใช้ชีวิต โดยมีตัวแปรในชีวิตที่ มากจนเกินความจำเป็น การลดจำนวนตัวแปรในชีวิต ของเรานั้นให้น้อยลง จะทำให้เวลาที่เรามีนั้น นำไปเพื่อแสดงออกซึ่งการ เอาใจใส่ หรือ การดูแล เป็นการกระทำ ที่มีคุณค่า และมีความสำคัญทาง ด้านจิตใจ ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การปรับเปลี่ยนมุมมอง ในการใช้ชีวิต ในรูปแบบ ที่กล่าวมาข้างต้น ในมุมมองของบางคน อาจจะมองว่า เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ แสดงออกในรูปแบบของ ความเห็นแก่ตัว เพราะเป็นการกระทำ ที่เลือกปฏิบัติ เฉพาะกับคนที่มีความสำคัญ กับตัวเองเท่านั้น

เห็นแก่ตัว หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและ ความคิดของแต่ ละคนที่อาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะใกล้เคียงกับการเห็นแก่ตัว ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้สร้างปัญหา หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ก็ไม่น่าที่จะนำมาเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต เพราะจริงๆแล้ว เมื่อชีวิตของคนเราเริ่มที่จะมีเวลา ที่เหลือน้อยมากขึ้นทุกทีแล้วนั้น เราไม่รู้ว่า เราจะมีอายุยืนยาว ต่อไปได้นานแค่ไหน

ดังนั้นการเลือกที่จะให้ความสำคัญกับคนที่เรารัก และเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลือ ด้วยกันอย่างมีคุณค่าที่สุด โดยเลือกที่จะไม่สนใจ หรือตัดเรื่องบางเรื่องทิ้งไป หรือเลือกที่จะเลิกติดต่อ กับคนบางคน ที่สุดท้ายแล้ว ไม่มีความจำเป็นจะต้องเกี่ยวข้อง หรือ พึ่งพาช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ในยามที่ต้องพบเจอกับความทุกข์ยาก เป็นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพโดยที่ไม่ควรถูกมองว่า เป็นการแสดงออกในด้านของความเห็นแก่ตัวแต่อย่างใด

บทความที่เกี่ยวข้อง

คุณภาพชีวิต ที่ดี ดูได้จากอะไร

คุณภาพชีวิต (Quality of Life) ตามหลัก พจนานุกรม ไทย-อังกฤษ ได้อธิบายความหมายไว้ว่า คุณภาพชีวิต คือ ลักษณะของการดำรงชีวิต,การใช้ชีวิต  ดังนั้น คุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะมีความหมายโดย จำกัดความได้ว่า ลักษณะของการดำรงชีวิตที่ดี, การใช้ชีวิตที่ดี

ความหมายกล่าวโดยรวมๆ เป็นความหมายที่กว้าง ลักษณะของการดำรงชีวิต หรือการใช้ชีวิตที่ดีนั้น จะสามารถดูได้ จากเรื่องอะไรบ้าง

คุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบด้วยเรื่องอะไรบ้าง

  • สุขภาพทางกาย (physical health) สุขภาพที่ดี ไม่มีโรคภัย ไม่เจ็บป่วย บ่งบอก ให้เห็นได้ถึง ทางที่เลือกที่ ใช้ดำเนินชีวิตของเรานั้น  เป็นการเลือกที่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้ เห็นทางด้านสุขภาพชัดที่สุด เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่สุขภาพย่ำแย่ หรือ เจ็บป่วยง่าย ลองย้อนกลับมา พิจารณาอีกครั้งว่า ทางเลือกที่เราเลือกเดิน ในการใช้ชีวิต นั้นเหมาะสมกับ ตัวเราเองแล้วหรือยัง
  • ครอบครัว (family) มีความสุข ในชีวิตครอบครัว มีครอบครัวที่น่ารัก เข้าใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือ และคอยสนับสนุน เพื่อให้สมาชิกทุกคนใน ครอบครัวได้อยู่ ร่วมกันอย่าง มีความสุข เปิดใจพูดคุยกัน และเข้าใจกัน รวมถึง ปัจจัยต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก อย่างเพียงพอ ต่อความต้องการ และความจำเป็น ต่อครอบครัว
  • การศึกษา (education) ได้รับการศึกษา ที่เหมาะสม มีโอกาส ในด้านการศึกษา และสามารถพัฒนา ต่อยอด ความรู้ได้ตรงตาม ศักยภาพที่มี หรือตอบสนอง ต่อความต้องการ เพื่อจะนำไปสร้าง ให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ในอนาคตการยอมรับจากสังคม
  • หน้าที่การงาน (employment) มีความสุขใน อาชีพที่ทำ ในงานที่รับผิดชอบ ได้รับการยอมรับ ในสังคมที่เกี่ยวข้องในอาชีพ และมีโอกาสพัฒนา และมองเห็นความก้าวหน้า ในอาชีพที่ทำ
  • ความมั่งคั่ง (wealth) สามารถวางแผน และจัดการ ในด้าน ทรัพย์สิน เงินทอง ที่จำเป็นต่อปัจจุบัน และอนาคตได้ดี มีศักยภาพ ในการบริหารจัดการ ภาระหนี้สินต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ และมั่นใจว่าจะ ไม่ก่อให้เกิด เป็นปัญหา ต่อเนื่องในอนาคตได้
  • ความปลอดภัย (safety) เมื่อปัจจัยต่างๆมีพร้อม ความปลอดต่อ การดำเนินชีวิต ต่อการ ใช้ชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่จำเป็น  การใช้ชีวิตอยู่ในสภาพ แวดล้อมที่ปลอดภัย ต่อสุขภาพ รวมถึงสถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย ไม่ได้ส่งผลเสีย ต่อการดำเนินชีวิต ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเสี่ยง ต่อวิถีการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
  • อิสระทางด้านเสรีภาพ (security to freedom) สิทธิพื้นฐานด้าน การดำเนินชีวิต ของมนุษย์ที่ได้รับ ความเท่าเทียม มีเกียติและศักดิ์ศรี อย่างเป็น อิสระ และได้รับความคุ้มครอง จากรัฐบาลในประเทศ อย่างความเท่าเทียมกัน
  1. สิ่งที่ควรมองหา
  • ศาสนา ความเชื่อ (religious beliefs) ความเท่าเทียม และ อิสระเสรีภาพ ในการเลือก ในการนับถือ ศาสนา และ ความเชื่อที่จะเลือกใช้ ในการดำรงค์ชีวิต ไม่ถูกปิดกั้น หรือแบ่งแยก อย่างเสมอภาค
  • สภาพสิ่งแวดล้อม (The environment) สภาพสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวย ต่อการดำเนินชีวิต มาตรฐานการครองชีพต้องสอดคล้องกับ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ โครงสร้างของประชากรในพื้นที่ ต้องเป็นระบบแบแผนที่ชัดเจน และตรวจสอบได้ ระบบสังคม ค่านิยมต้อง สอดคล้องและตรงกับ วิถีการดำเนินชีวิต สภาพสิ่งแวดล้อมที่มี ต้องรองรับการพัฒนา และปรับปรุงแก้ไข ให้สอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงในสังคมโลก

บทส่งท้าย

คุณภาพชีวิตที่ดี เป็นสิ่งสำคัญหลัก ของชีวิตมนุษย์ ที่ทุกคนสมควรที่จะได้รับ และสมควรที่จะให้ ความสำคัญ เป็นอย่างยิ่ง การดำเนินชีวิต โดยมีเป้าหมาย และสร้างให้ชีวิตในแต่ละวัน ให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณค่า ไม่เป็นภาระ ของสังคม สามารถดูแล และจัดการ ชีวิตตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อคนทุกคน สามารถที่จะจัดการ กับชีวิตของตัวเองได้แล้วนั้น ในสังคมก็จะได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆกัน เนื่องจากสังคม จะมีการพัฒนาที่ดีได้แบบต่อเนื่อง ต้องอาศัย ปัจจัยหลักที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ก็คือ ประชากร ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดี ในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างไร

บทความที่เกี่ยวข้อง

กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ทางสังคมมีไว้เพื่ออะไร

เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมสังคมในปัจุจุบัน จึงมี กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน ทำให้บางครั้ง การใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้น เกิดความวุ่นวาย หรือ ทำให้ไม่สามารถ สัมผัสได้ถึง การมีอิสรภาพ และ เสรีภาพ ในการดำเนินชีวิต

กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ความสำคัญ 

สังคม คือ การอยู่รวมกันของ คนหมู่มาก ที่ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน มีแนวโน้ม ของวิถีชีวิต ที่ต้องเกี่ยวข้องกัน เมื่อมีการอยู่ร่วมกัน จนกลายเป็น สังคมหมู่มาก ปัญหาต่างๆ ก็จะมากตามลำดับ  เกิดจากอะไร เกิดจาก  ความแตกต่าง ของแต่ละคน เช่น ความแตกต่าง ทางครอบครัว ความคิด วัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงนิสัยที่แตกต่างกัน

ทำอย่างไรที่จะทำ ให้ความแตกต่างนั้น ก่อให้เกิดปัญหา น้อยที่สุด หรือ เมื่อใดที่เกิดปัญหา ก็จะเป็นสิ่งที่สามารถ นำมาเป็น แนวทางที่ใช้ในการแก้ปัญหา ในเรื่องของการอยู่ร่วมกัน ในสังคม

กฎระเบียบข้อบังคับ จึงถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นแนวทาง ให้ใช้ปฏิบัติ สำหรับการดำเนินชีวิตร่วมกัน ในสังคม โดยถูกสร้างให้เป็น มาตรฐานพื้นฐาน ที่ได้รับการยอมรับ จากผู้ที่เกี่ยวข้อง ความสงบเรียบร้อย จึงเกิดขึ้น ถึงแม้บางครั้ง อาจจะมีข้อสงสัยไม่เห็นด้วย หรืออาจจะมีกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่ไม่ยอมรับ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในสังคมเดียวกันกับคนหมู่มาก ก็ต้องทำตามคนหมู่มาก

ความแตกต่าง

กฎที่เพิ่มขึ้น หรือลดลง อย่างมีสาเหตุ

เรื่องของกฎระเบียบ ที่เข้มงวด ที่เพิ่มมากขึ้น มันมีสาเหตุที่ชัดเจน ก็คือ เริ่มจะมีแนวโน้มที่ไม่ดี เริ่มไม่ได้การตอบรับ หรือไม่ให้ความร่วมมือ และ เริ่มที่จะเกิดปัญหา มากขึ้นในสังคม ที่ต้องอยู่ร่วมกัน จึงทำให้ต้องเพิ่ม จากเดิมที่มีอยู่ ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อลด หรือ บรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น

ในทางกลับกัน การลด ก็สามารถเกิดได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ กับพฤติกรรมของกลุ่มคน ในสังคมที่อยู่ร่วมกัน ว่ามีแนวโน้มอย่างไร ถ้าคนในสังคมให้ความร่วมมือ และรู้จักหน้าที่ของตัวเองได้ดี  การเข้มงวดก็อาจจะ ไม่จำเป็นมากจนเกินไป ลด หรือตัดทอน บางอย่างเพื่อการอยู่ร่วมกัน โดยปราศจากการบังคับ หรือ ริดรอน อิสรภาพ

ต้องอย่าลืมว่า ทุกอย่างเกิดขึ้น โดยมีเหตุและผล ความมีระเบียบ และรู้จักหน้าที่ ที่ต้องมีต่อสังคม เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจ และควรจะทำตามเพื่อ ประโยชน์ต่อตัวเอง และ ต่อคนอื่นที่อยู่ในสังคมเดียวกันกับเรา

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ กฎระเบียบข้อบังคับ ถูกละเลย

แน่นอน ความวุ่นวาย เกิดขึ้น ปัญหาที่เกิด จากกลุ่มคน ที่ไม่เคารพกฎระเบียบ ทางสังคมที่วางไว้ ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม การเปรียบเทียบ การเลือกปฏิบัติ จะส่งผลรุนแรง สภาพแวดล้อม บรรยากาศในการอยู่ร่วมกัน จะถูกทำลาย

แต่ละคนเลือกที่จะทำ หรือไม่ทำตาม ด้วยความพึงพอใจ ของตนเอง ไม่สนใจ หรือ คิดว่าไม่ได้มีความสำคัญ การอยู่ร่วมกัน จะเริ่มไม่สงบสุข เริ่มจะอยู่ร่วมกัน ยากขึ้น เมื่อสังคม ไม่น่าอยู่ คุณภาพชีวิตที่มี จะเป็นอย่างไร

ทุกอย่างส่งผล กระทบกันเป็นลูกโซ่ ดังนั้นกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่มีขึ้นมานั้น จำเป็นจะต้องได้รับ การยอมรับ และจำเป็น ต้องปฏิบัติตามเพื่อความสงบสุข ของสังคม

ความร่วมมือ

บทส่งท้าย

ความสงบสุข ของสังคม จำเป็นต้องได้รับ การร่วมมือ จากผู้ที่เกี่ยงข้อง ทุกคน การโต้แย้ง หรือไม่เห็นด้วย กับกฏระเบียบ หรือข้อบังคับที่มี สามารถมีได้ แต่ต้องเลือกที่ จะนำเสนอ ให้ถูกที่ถูกทาง การนำเสนอ หรือการโต้แย้ง ควรทำเพื่อ ก่อให้เกิดการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพื่อประโยชน์ของทุกๆคน ที่อยู่ร่วมกันในสังคม

สังคม จะน่าอยู่มากขึ้น ถ้าทุกคน ร่วมมือกัน และเข้าใจถึงสิ่งที่ จำเป็นต่อสังคม กฎระเบียบข้อบังคับ สร้างความเป็นระเบียบ คนทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เริ่มจากพื้นฐานนี้เป็นจุดสำคัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

พื้นที่ส่วนรวม เราทุกคนต้องช่วยกันดูแล

พื้นที่ส่วนรวม คืออะไร ตามความหมายของ พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน พื้นที่ แปลว่า อนาเขต เขต พื้นที่ ส่วนรวม แปลว่า การใช้ร่วมกัน ดังนั้นจึงทำให้ พื้นที่ส่วนรวมมีความหมายโดยจำกัดความได้ว่า  อนาเขตพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน

พื้นที่ส่วนรวมจะเป็นพื้นที่ ที่แต่ละคนสามารถที่จะเข้ามา ใช้บริการร่วมกันได้ มาพักผ่อน มาสังสรรค์ มาพบปะพูดคุยกัน มาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เช่น การออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ทานอาหาร เป็นต้น พื้นที่ส่วนรวมถือเป็นสถานที่ ที่เป็นของทุกคน ถือเป็นสถานที่ ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมกันรับผิดชอบ และร่วมกันดูแล

พื้นที่ส่วนรวม ที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล

ก่อนอื่น ทุกคนต้อง เข้าใจก่อนว่า พื้นที่ส่วนรวมนั้น เป็นของทุกคน ดังนั้น ไม่มีใครที่เป็นเจ้าของ หรือ มีสิทธิ์ ที่จะนำมาเป็นทรัพย์สินของตนเอง หรือจับจองได้ สิ่งก่อสร้าง หรือ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่อยู่ในพื้นที่ส่วนรวม ที่ถูกจัดวางไว้ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้  ทุกคนต้องช่วยกันดูแล ต้องรู้จักแบ่งปัน กับคนอื่นๆที่ ต่างก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ ได้เช่นกัน

ทุกวันนี้ พื้นที่ส่วนรวมถูกละเลย ด้วยนิสัยไม่รับผิดชอบของผู้ใช้บางคน การเข้ามาใช้บริการ พื้นที่ส่วนรวมถูกใช้โดย ไม่เห็นคุณค่า ใช้กันตามอำเภอใจ ไม่ให้เกียรติสถานที่ รวมถึงไม่นึกถึงคนอื่น นึกถึงแต่ความสะดวก สบายของตัวเองเป็นหลัก ความเห็นแก่ตัว มีมากขึ้นในสังคม ไม่สนใจใคร คิดแต่ความต้องการของตัวเอง

ประเด็นสำคัญในเรื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อส่วนรวม เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ถามหาเรื่องความร่วมมือ ความรับผิดชอบ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในสมัยนี้หายากมาก คนที่มีจิตสำนึก ถึงสังคมที่ต้องร่วมกัน รับผิดชอบก็ทำกันไป แต่คนที่ไม่สนใจ ก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ซ้ำร้ายยังถือโอกาส เอาเปรียบต่อผู้ที่ ต้องการที่จะช่วยเหลือ ต่อสังคมอย่างจริงจัง

เมื่อเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของผู้เข้าใช้ เหตุการณ์ต่อมา คือถามหาคนรับผิดชอบ เนื่องจาก สิ่งที่เคยอำนวยความสะดวก เกิดปัญหา ไม่สะดวกอีกต่อไปแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ต้องยอมรับว่า บางครั้งก็ได้รับการแก้ไขโดยด่วน หรืออาจจะใช้เวลาไม่นาน แต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลา กว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม คนที่เดือดร้อนคือใคร ก็ไม่พ้นตัวเอง และยังทำให้คนอื่น ต้องได้รับผลจากการกระทำไปด้วย

สนามเด็กเล่น

ข้อคิดเห็นเล็กน้อยที่น่าจะช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องการใช้พื้นที่ส่วนรวม

ถ้าผู้ใช้บางคน เปลี่ยนวิธีการคิด ให้มีความรับผิดชอบ ต่อสังคมเพิ่มขึ้น คิดถึงผล ที่จะตามมาจากการกระทำ บางอย่างที่อาจจะ ไม่ได้ส่งผลดี ต่อทรัพย์สินส่วนรวม ต่อสิ่งปลูกสร้าง ต่อสิ่งของอำนวยความสะดวก ที่ถูกจัดไว้ให้ ร่วมช่วยกันดูแล และใช้งานกันอย่างเห็นคุณค่า สิ่งต่างๆก็จะยังคง มีสภาพที่ดีและมีอายุการใช้งาน ที่ยาวนานต่อไปได้อีก

ให้ระลึกอยู่เสมอว่า ผลจากการกระทำ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ สามารถสร้างความเสียหาย หรือ เป็นการสร้างภาระให้กับคนอื่น นั้นต้องรับผิดชอบ  ทั้งๆที่ บางครั้ง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิด แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า พื้นที่ส่วนรวมนั้นเป็นของทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ส่วนรวม ทุกคนจึงได้รับผลกระทบไปด้วย

การมีจิตสำนึกที่ดี คำนึงอยู่เสมอว่า อะไรที่ไม่ใช่ของตัวเอง และอะไรที่เป็นของส่วนรวม จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญ การเข้ามาใช้บริการต้องมีระเบียบ ต้องปฎิบัติตามกฎ ในการเข้าใช้พื้นที่ส่วนรวม อย่างเคร่งครัด ความมีระเบียบ ในสังคมเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าทุกคน เลือกที่ทำตามความต้องการ แต่ของตัวเอง สังคมจะอยู่ร่วมกัน ได้อย่างไร

ความเห็นแก่ตัว ทุกวันนี้มีมากขึ้น ในสังคม อยู่ร่วมกันแบบ ถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนสมัยปู่ยาตายาย เริ่มมีให้เห็นน้อยลงทุกที การปลูกฝัง การอบรบสั่งสอน การให้ความรู้ ในเรื่อง การปรับตัว ในการอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบัน

สังคมต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่อการอยู่ร่วมกัน

การอยู่ร่วมกัน โดยการรู้จัก หน้าที่ของตัวเอง ว่าควรต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อคนอื่น หรือต่อสังคมคนหมู่มาก ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หรือร่วมมือกัน รับผิดชอบต่อสังคม หรือต่อประเทศชาติ จะทำให้คนเกิดการพัฒนา ประเทศถึงจะพัฒนาได้ เพราะปัจจัยหลัก ในการเปลี่ยนแปลง หรือการพัฒนา สังคมและประเทศ คือการได้รับความร่วมือจากทุกคน สังคมที่อยู่ร่วมกันดีขึ้น แนวโน้มคุณภาพชีวิต ก็จะดีขึ้นตามลำดับ

กฎระเบียบทางสังคม

ระเบียบแบบแผน กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทางสังคม ที่มีขึ้นเพื่อให้แต่ละคน ใช้เป็นแนวทาง ปฏิบัติในการอยู่ร่วมกัน ให้เป็นในแบบเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิด การเหลื่อมล้ำกันเองในสังคม ที่ต้องอยู่ร่วมกัน ดังนั้น ความร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็น

บทความที่เกี่ยวข้อง

วิธีรับมือกับความผิดหวัง ความล้มเหลว

0

ความรู้สึก เศร้า เสียใจ ผิดหวัง กับสิ่งที่เลือก คิดว่าดีแล้ว เหมาะสมกับตัวเอง ที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้อง พบเจอกับ ความผิดหวัง ความตั้งใจที่มีอย่างแรงกล้า ที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้สำเร็จ แต่กลับต้องพบกับ ความล้มเหลว ควรทำอย่างไรเมื่อ ชีวิตต้องเดินทางมาเจอกับ เหตุการณ์แบบนี้

ความผิดหวัง เสียใจ ในเรื่องความรักที่ต้องพบกับ ความล้มเหลว เรื่องราวของความรัก ที่สร้างความ เศร้า เสียใจ ความรักแบบไหน ที่สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้น ที่ต้องลงเอย กับ ความผิดหวัง และควรจะรับมืออย่างไร เมื่อ เหตุการณ์นั้นได้มาถึง

รัก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ใช่ บางครั้งความรัก ก็มาพร้อมๆ กับการหลอกตัวเอง ว่าคนนี้แหล่ะใช่ แต่สุดท้ายแล้วคือไม่ใช่ แต่ยอมรับไม่ได้ จึงยังคงต้องหลอกตัวเองต่อไป กลัวที่จะเสียใจ หรือคาดหวังว่า มันอาจจะใช่ ต้องมีซักวัน ปล่อยทิ้งให้ระยะ เวลายาวนาน ยิ่งนานก็ยิ่งเจ็บปวด คนไม่ใช่สุดท้ายก็คือไม่ใช่ สุดท้ายก็ต้องจบ

วิธีรับมือ คือ เมื่อเริ่มคบกัน ระยะเวลาพิสูจน์ ให้เห็นได้ว่า เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ ควรที่จะหยุดความสัมพันธ์ เป็นหนทางดีที่สุด อย่างน้อยก็จะได้ ไม่ต้องเจ็บปวด มากเกินไป ด้วยกันทั้งคู่ ยิ่งปล่อยให้ ระยะเวลาเนิ่นนานไป ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ เลือกที่จะจบด้วยความรู้สึก ที่ดีๆต่อกัน จบกันด้วยความเข้าใจ อย่างน้อยก็ยังคง เป็นเพื่อนที่ดีกันต่อไปได้

กลัวการอยู่คนเดียว

รัก เพื่อจะลืม ความรักที่ใช้ เหตุผลแบบนี้ ส่วนมากมักจะสร้างความเจ็บปวด กับคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ เพราะคนใหม่ถูกเลือกมาด้วยเหตุผลที่ ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เพื่อต้องการที่จะลืมคนเก่า กับความสัมพันธ์ที่พบเจอกับ ความล้มเหลว ให้เร็วที่สุด แต่บางครั้ง การลืมไม่ใช่ว่าเป็นหนทาง ในการแก้ไขต่อปัญหา ยิ่งแก้โดยคบคนใหม่ ยิ่งแย่ มันจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่เป็นงูกินหางต่อไป

วิธีรับมือ คือ ต้องให้เวลาตัวเอง เพื่อให้หัวใจและสมองได้พัก เวลาจะเป็นตัวช่วยรักษาความรู้สึก เจ็บปวด ความเสียใจ ความอ่อนล้า ที่ได้รับ รักตัวเองให้มากๆ อย่าทำร้ายตัวเองมากเกินไป หันกลับมา เปลี่ยนแปลงตัวเอง ออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ชอบทำ ในเวลาที่อยู่กับแฟนแล้ว ไม่มีเวลาที่จะทำ ออกไปเที่ยวหา ประสบการณ์ใหม่เรียนรู้เพิ่มเติม

รัก เพราะกลัวความเหงา กลัวการอยู่คนเดียว  ความรักแบบนี้ จะเป็นความสัมพันธ์ แบบ​เรียกร้อง​ ความต้องการ​ การเอาใจใส่ดูแล​ มากเป็นทวีคูณ​ เพราะอีกฝ่ายกลัวความเหงา ไม่กล้าที่จะ อยู่คนเดียว ความอิสระ​ในความสัมพันธ์จะมีน้อยลง เพราะต้องคอยเอาใจใส่ อยู่ตลอดเวลา ยิ่งใกล้กันมาก ยิ่งอึดอัด ยิ่งเรียกร้องยิ่งไม่ได้ สุดท้ายแยกย้าย  ​

วิธี​รับมือ​ คือ​ ฝึกการอยู่ได้ ด้วยตัวเอง​ การอยู่คนเดียว ไม่ได้​เลวร้าย​ ไม่มีใครที่จะอยู่กับเรา ได้ตลอดเวลา​ ถ้าเราสามารถ ​ที่จะอยู่ คนเดียวได้ ดูแลตัวเองได้ นั่นเป็นการแสดง ศักยภาพให้เห็นว่า คุณก็สามารถ ดูแลคนอื่นได้เช่นกัน อย่าหวังเพียงแต่ว่า ต้องได้รับการดูแล จากคนอื่น หรือเอาชีวิต ไปผูกติดกับคนอื่น

รัก เพื่อต้องการเอาชนะ ความรักที่ เกิดจาการแย่งชิง แข่งขัน เพื่อให้ได้มา มักจะไม่ค่อย ให้คุณค่า กับคนที่เราบอกว่ารัก เป็นแค่ ความสะใจที่ สามารถเอามาเป็น ของตัวเองได้ เพื่อชนะกับคนอื่น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตัวเองเป็นผู้ชนะ เอาความรู้สึกของคน มาเล่นเหมือนเกม ที่ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ หลังจากนั้นก็เบื่อ เมื่อชนะแล้วทุกอย่างก็จบ ความเบื่อหน่าย เข้ามาแทนที่ ก็ต้องต่างคนต่างไป

การแข่งขัน

วิธีรับมือคือ อย่าคิดล้อเล่น กับความรู้สึก ในเรื่องของความรัก เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ความสำคัญ ก่อนที่จะ คิดมีความรัก ต้องให้เกียรติตัวเอง และอีกฝ่าย ถ้าทั้งหมดนี้ ยังไม่สามารถเข้าใจได้ ก็ต้องยอมรับกับ ความผิดหวัง ในความรักครั้งนี้ว่า จะไม่สามารถ สานสัมพันธ์ได้ยาวนาน อย่างแน่นอน ไม่มีใครที่อยากเป็น เกมให้คนอื่น นำมาเล่นกันอย่างสนุก โดยเฉพาะ ในเรื่องความรู้สึกของหัวใจ

รัก ที่ไม่ได้มีกันแค่ เรา ความรักประเภทนี้ เป็นทางเลือกของผู้ที่คิดว่า เป็นคนใจกว้าง สามารถให้คนที่เรารัก มีคนอื่นได้ คิดว่าตัวเองรับได้ ขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน ก็พอ ไม่มีใครทนได้จริงๆหรอก ที่เห็นคนที่เรารัก หรือคบหากันอยู่ ไปอยู่กับคนอื่น หรือไปไหนด้วยสามคน ผัวเมีย การหลอกตัวเองว่าเข้าใจ ยอมรับได้ มันอยู่ได้ไม่นาน

วิธีรับมือ คือ เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ถามตัวเองว่าจริงๆแล้ว ความรักที่ต้องการจริงๆแล้ว เป็นแบบไหน อย่าหลอกตัวเอง อย่าปิดกั้นโอกาสกับตัวเอง วันนี้ถ้าพลาดโอกาสจากคนนี้ วันหน้าก็ยังมีคนดีๆอีกมากมาย ที่รอเจอกับเราอยู่ ความรักที่ไม่ได้มีแค่เรา มันไม่ใช่หนทางของความรักที่ควรจะเดิน หรือถ้าคิดว่าจะเดิน เพราะมองไม่เห็นทางอื่น ก็เตรียมออกกำลังกาย หัวใจให้เข้มแข็งที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมรับกับความเจ็บปวดในอนาคต

ท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์

ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน คนสองคนได้พบเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทางเลือกของความสัมพันธ์ จะเป็นแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกของแต่ละคน เส้นทางข้างหน้า จะต้องพบเจอกับความสุข สมหวัง หรือ ต้องพบเจอกับ ความผิดหวัง ความล้มเหลว ก็ขอให้อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง ให้อภัยคนอื่นแล้ว อย่าลืมให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่ โดยมีประสบการณ์เป็นแนวทาง อย่างมีสติ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อิสรภาพทางความคิดจำเป็นต่อการใช้ชีวิต

0

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมค่านิยม ที่คนเราจะต้องพยายามสร้าง และต้องพยายามหา เพื่อให้ได้มา เช่น  ทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อ เสียง อำนาจ สิ่งเหล่านี้เราพยายามหา พยายามสร้างมาเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่ เพื่อต้องการอิสรภาพ จากภาวะกดดันต่างๆที่อยู่รอบตัว  แต่คุณรู้หรือไม่ อิสรภาพหลัก ที่เราจำเป็นจะต้องสร้างเป็นอันดับแรกที่สำคัญที่สุด ก็คือ อิสรภาพทางความคิด ที่คนทุกคนจำเป็นต้องมี

ทำไม อิสรภาพทางความคิด ถึงจำเป็น

การโดนปิดกั้น​ อิสรภาพทางความคิด​ เป็นการกระทำ ที่คนทุกคนไม่สมควรที่จะต้องได้รับ ทุกคนมีพื้นที่ ความคิด เป็นของตัวเอง การสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ๆบนโลกใบนี้ เกิดขึ้นได้จากกลุ่ม​คน ในผู้​ที่มี อิสระทางความคิด ทำให้สามารถคิด ได้อย่างอิสระเสรี สามารถแสดงออก ในด้านข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อขัดแย้ง ได้อย่างเปิดกว้าง

การยอมรับฟัง เท่ากับเป็นการเปิดโอกาส ให้สังคมและคนทุกคน เกิดการพัฒนาที่ก้าวไปข้างหน้า เวลาไม่เคยหยุดนิ่ง วิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การหยุดนิ่งอยู่กับที่ เท่ากับว่า เป็นการปิดกั้นโอกาส ที่จะทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ก้าวไกล รองรับกับความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ในด้านการเสริมสร้าง กระบวนการความคิด เพื่อทำให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ และเพื่อก่อเกิดการพัฒนานั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นเสมอ ควบคู่ไปกับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม ​ แต่ถ้าการสร้าง​สรรค์  ที่อยู่ในกรอบเดิมๆ ซึ่งถูกเขียนหรือสร้างขึ้นโดยกลุ่มคน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งทำให้การพัฒนา ก็ยังจะคงวนเวียนอยู่ที่เดิม หรือ ไม่ได้เกิดการพัฒนาได้เต็มที่ ดังนั้นการลอกเลียนแบบ จึงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป

อิสรภาพโดนปิดกั้น

ตัวอย่างเช่น การปลูกฝังความคิดว่า ต้องทำแบบนี้เท่านั้น ห้ามคิดออกนอกลู่นอกทาง เมื่อก่อน เคยเป็นอย่างไร ก็ให้ทำไปตามนั้น อย่าคิดเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเด็ดขาด แนวความคิดและการปฏิบัติเช่นนี้ มันเป็นการปิดกั้น ไม่ให้มนุษย์ได้สามารถมี อิสระทางความคิด ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดโอกาส ไม่ให้มนุษย์เรา สามารถทำหรือตัดสินใจได้อย่างอิสระเสรี อย่างที่ควรจะเป็น

คุณรู้บ้างมั้ยว่า ความคิด เป็นพลังงานที่อยู่​เหนือ การควบคุม เป็นพลังงานที่ต้อง เคลื่อนไหว เป็นพลังงานที่ใช้ ขับเคลื่อนเส้นทางในการดำเนินชีวิต​ เมื่อไหร่ก็ตามพลังงานเหล่านั้นที่โดนปิดกั้น เท่ากับว่า ชีวิตจะต้องก้าวเดิน ไปอย่างไม่มั่นคงหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะคิด ไม่กล้าที่จะทำ อนาคตมืดมน เปรียบเสมือนร่างกาย เป็นอัมพาต

อิสระภาพทางความคิด เป็นพื้นฐานของความสำเร็จ

“การทำธุรกิจควรทำให้ สนุก และมีการฝึก  ความคิดสร้างสรรค์”  Richard Branson นักธุรกิจชาวอังกฤษ เป็นเจ้าของธุรกิจกว่า 360 บริษัท ที่ใช่ชื่อการค้า “Virgin” ได้ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับ แนวคิดในการดำเนินธุรกิจ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในการบริหาร และการจัดการ

การแสดงออกและการให้ความสำคัญ กับความคิดสร้างสรรค์ จะต้องก่อและเกิดขึ้น ในรูปแบบของความ สนุก ท้าทาย จะทำให้เกิดการพัฒนาก้าวไกล อย่างต่อเนื่อง นั่นหมายถึง การมี อิสรภาพทางความคิด ที่เป็นอิสระ ทำให้เกิด ความคิดสร้างสรรค์ ที่เป็นอิสระ แนวคิดหลากหลาย รูปแบบ และสามารถนำมา ต่อยอด ธุรกิจให้ก้าวไกล อย่างมีคุุณภาพ อย่างมีความสุข สนุกกับการทำงาน จนประสบความสำเร็จ

การตั้งเป้าหมายในชีวิต ที่ต้องการให้ สำเร็จตามที่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องชีวิตของการทำงาน  เรื่องของชีวิตครอบครัว ที่เป็นเป้าหมาย พื้นฐานหลักๆ ที่ทุกคนต้องการ ที่จะประสบความสำเร็จ การมีอิสรภาพทางความคิด เป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้สามารถ คิด วางแผน และจัดการ ได้อย่างเป็นขั้น เป็นตอน

มีอิสระที่จะสร้าง และวางแผนชีวิตได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าจะมีขอบเขตข้อบังคับ​ ขอบเขตหรือข้อบังคับที่มี​ ควรจะต้อง​ ได้รับการยอมรับ​ และเข้าใจ​จากตัวบุคคล​โดยตรง​ ไม่ควรที่จะ​เกิดขึ้น​ และให้ปฎิบัติตาม​ ในรูปแบบของการถูกบังคับ

Freedom of life

การใช้เชีวิต อย่างมีเสรีภาพ (Freedom of Life) เป็นสิ่ง ที่ทุกคนตามหา เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิต ของตนเองมีคุณค่า ต่อความรู้สึก และ จิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ ตัวเราเอง เท่านั้น ที่เป็นคนเลือกว่า จะต้องการที่จะให้ ชีวิตของเรา เดินทางไปในรูปแบบไหน ทุกชีวิต มีสิทธิที่จะเลือก มีอิสรภาพที่จะคิด ออกความคิดเห็นได้อย่างเสรี

บทความที่เกี่ยวข้อง

เลิกดื่ม แอลกอฮอล์ เลิกยาก แต่เลิกได้

0

การดื่มเครื่องดื่ม ประเภทที่มี แอลกอฮอล์  มีหลายคนที่ประสบปัญหาในการ เลิกดื่ม ที่ไม่สามารถที่จะทำตามที่ต้องการได้ อะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถที่จะ เลิกดื่มได้ เรื่องการเสพติด เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ ที่มีสารที่ส่งผลให้มี อาการมึน เมา ไม่มีสติสัมปชัญญะ  สูญเสียการควบคุม สามารถ งด เลิก ได้จริงหรือไม่

เหตุการณ์จริงที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง

ผู้เขียนขอ แชร์ ประสบการณ์ที่ได้เจอกับ คนใกล้ชิด ที่สามารถจัดการกับปัญหาในการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสร้างความประหลาดใจ และ ประทับใจไปในเวลาเดียวกัน ขออนุญาตตั้งชื่อว่า คุณ เอ นะคะ คุณเอ เป็นคนต่างชาติ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ ในเมืองไทย เดินทางไปมา ตลอด ไม่ได้อยู่แบบถาวร ชีวิตผูกติดกับการเดินทางเพื่อค้นหาและเรียนรู้ ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิต

ตั้งแต่ ผู้เขียน ได้รู้จักคุณ เอ ตั้งแต่วันแรก พฤติกรรมการดื่มของคุณเอ จะทำเป็นกิจวัตรในแต่ละวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือการออกไปสังสรรค์ กับเพื่อนๆ ก็จะเห็นคุณเอ ดื่มเป็นเรื่องธรรมดาเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ธรรมดา คือ เวลาคุณเอ เริ่มดื่ม จะไม่สามารถบังคับตัวเอง ให้หยุดดื่มได้ ถ้าดื่มที่ร้านอาหารกับเพื่อนเสร็จแล้ว ก็จะซื้อเครื่องดื่มติดไม้ติดมือกลับบ้าน เสมอ 2-3 ขวด อย่างน้อย แล้วก็ดื่มจนกว่าจะหมด ถึงจะเริ่มเข้านอน

ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ทุกครั้งเวลาที่ดื่ม ปริมาณที่ร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ มีปริมาณที่เยอะมาก ซึ่งพฤติกรรมในการดื่ม จะคงมีต่อเนื่องเกือบทุกวัน และก็เป็นแบบนี้มาตลอด 3-4 ปี ที่รู้จักกัน จนผู้เขียน มีความเห็นว่า คุณเอ น่าจะมี อาการเสพติด แอลกอฮอล์ หรือที่เรา รู้จักกันว่า Alcoholism

จนสุดท้าย ผู้เขียน มีโอกาส ได้ถามคุณเอโดยตรง เราคุยกันในแบบเปิดใจ คุยกันในเรื่องที่สงสัย คือผู้เขียนถาม คุณเอว่า คุณเอคิดว่าตัวเองเป็นโรค Alcoholism หรือไม่ คำตอบที่ได้มาคือ คุณเอ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นโรค Alcoholism และไม่ใช่คนที่จะมีแนวโน้มหรือใกล้เคียงที่จะเป็นโรคนี้เลย แปลกใจมั้ยคะฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อเพราะการกระทำที่เป็นอยู่ มันเชื่อได้ยากมากที่คุณเอจะไม่เป็นโรค Alcoholism

คุณเอ ให้เหตุผล เรื่องการดื่มว่า การดื่มเป็นไปเพื่อการเรียนรู้ เป็นการทดลองประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเอง ใขนณะที่ดื่ม จะต้องมีการ จัดการกับความรู้สึก และควบคุมจิตไปในเวลาเดียวกัน ว่ามันเป็นอย่างไร และถ้าคุณเอรู้สึกว่าทุกอย่างมันเต็มที่แล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่ได้ให้น่าสนใจอีกต่อไป คุณเอก็จะหยุด และเลิกดื่ม ได้เอง

โอ้โห มันชั่งเป็นแนวความคิดที่แบบ สุดยอด ทำได้จริงๆหรอ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดูจากสภาพและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ตอนที่เราคุยกัน น่าจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ผู้เขียนเองก็เปิดใจจะลองเชื่อดู ว่ามันคงจะเกิดเป็นจริงซักวัน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เหตุการณ์ที่ทำให้การเลิกดื่มเริ่มต้น

หลังจากระยะเวลาผ่านไปได้ซักระยะ ตั้งแต่ที่เราได้คุยกัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ คุณเอ ดื่มแอลกอฮอล์หนักมาก หนักขึ้นเรื่อยๆ จนมีวันนึง คุณเอดื่มหนักมาก จนไม่สามารถ ควบคุม ตัวเองได้แล้ว มีพฤติกรรม ที่แสงดออกมาได้อย่างน่าอับอายมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเอ รู้สึกแย่กับตัวเองอย่างมาก และรู้สึกว่าการดื่มไม่ได้น่าสนใจอีกต่อไป และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ คุณเอ ได้ตัดสินใจที่จะเลิกดื่ม ทันที

หยุดดื่ม โดยทันที หรือที่เรียกว่า หักดิบ คือหยุด หยุดทุกอย่างที่เป็น แอลกอฮอล์ ที่ทำให้เกิด อาการมึนเมา  ไม่ดื่มเลย ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ยากต่อการควบคุมอย่างมาก เพราะในกิจวัตรของคุณเอ โดยรวมแล้ว การพบป่ะ สังสรรค์กับเพื่อนฝูงนั้น มันหลีกเลี่ยงยากมากที่จะไม่ดื่ม เพราะบรรดาเพื่อนๆทุกคน ไม่มีใครที่ไม่ดื่ม ยกเว้นคุณเอ ที่ตัดสินใจที่จะหยุดดื่มโดยถาวร

ยังมีเรื่องการเดินทาง ไปตามสถานที่ต่างๆที่คุณเอ เดินทางไป ก็เป็นแหล่งที่เรื่องการดื่มเป็นเรื่องธรรมดาและมีหลากหลายตัวเลือกให้ เลือกดื่มได้อย่างมีอรรถรส การเข้าพักในโรงแรมที่มี บริการแอลกอฮอล์สำหรับสมาชิกฟรี ทุกครั้งที่เข้าพัก การเดินทางโดยสายการบิน ระดับ ชั้นธุรกิจ หรือ ลูกค้าชั้นหนึ่ง ที่มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดระยะเวลาเดินทาง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่แพงหรู

ในความคิดเห็นของผู้เขียน สิ่งแวดล้อมที่ คุณเอ ต้องพบเจอ เป็นอุปสรรคอย่างรุนแรงที่มีโอกาส จะทำให้ความตั้งใจที่ คุณเอ ต้องการจะทำนั้น ล้มเหลวได้ตลอดเวลา แต่สุดท้าย คุณเอ ก็ได้พิสูจน์ตัวเอง ให้ผู้เขียนได้เห็นว่า ในสิ่งที่คุณเอ ได้บอกไว้นั้น คุณเอ สามารถทำได้จริงๆ ณ ปัจจุบันคุณเอ เลิกดื่ม แอลกอฮอล์เด็ดขาดโดยรวมเป็นระยะ 2 ปีกว่าๆแล้ว และจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปตลอด คุณเอ กล่าว

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

ความหนักแน่น ที่ทำให้คุณเอ เลิกดื่ม ได้อย่างมั่นคง จากสิ่งแวดล้อมที่ไม่อำนวยเอาเสียเลย พอจะสรุปคร่าวๆได้ประมาณนึงคือ

  1. สาเหตุหลักในการดื่ม ที่ต้องการดื่มเพื่อ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และ เรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ ในเวลาที่ดื่ม แต่หลังจากที่ การดื่ม ไม่ได้น่าสนใจอีกต่อไป จึงไม่จำเป็นต้อง ดื่มอีก
  2. สุขภาพที่ต้องให้ความสำคัญ หลังจากที่ดื่มหนัก ต่อเนื่องมายาวนาน ตับ ไต ระบบภายใน ที่ต้องทำงานหนัก ในช่วงที่ แอลกอฮอล์ เข้าสู่ร่างกาย ในจำนวนที่มากจนเกินไป
  3. สุขภาพของการเต้นของหัวใจที่ ต้องทำงานหนัก จะสามารถสังเกตุได้ว่า เวลาที่ดื่ม ระบบการเต้นของหัวใจจะทำงานหนักมาก ซึ่งไม่ดีกับระบบทำงานของหัวใจ ในอนาคต
  4. ค่าใช้จ่าย ที่ต้องสิ้นเปลืองไปกับการซื้อแอลกอฮอล์ ซึ่งแต่ละขวด แต่ละประเภท ราคาไม่ใช่ว่าถูกๆเลย หลักพัน ขึ้นทั้งนั้น
  5. สุขภาพจิตที่ดีขึ้น อย่างมากหลังจาก เลิกดื่ม แอลกอฮอล์ ความจำ กระบวนการตัดสินใจ ความคิด ชัดเจนมากขึ้น
  6. การนอนหลับที่มีคุณภาพมากขึ้น ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

คุณเอ มีคนที่มีจิตใจที่หนักแน่น เป็นหัวใจสำคัญ ความตั้งใจที่จะไม่ยอมที่จะปล่อยให้อะไร ก็แล้วแต่มามีผล หรือ สร้างเงื่อนไข ให้ต้องล้มเลิก หรือ ไม่ทำตามที่ตั้งใจ จนกว่าจะสำเร็จ สิ่งสำคัญนี้แหล่ะจะนำพาให้ผ่านจุดเปลี่ยนที่คิดว่ายากที่สุดในชีวิต และจะทำให้สำเร็จตามทีได้ตั้งใจไว้อย่างน่า ภาคภูมิใจ

ความเชื่อมั่น ศรัทธา และ ซื่อสัตย์ กับตัวเอง จะเป็นบันได ที่จะนำพาเรา ก้าวผ่าน ต่ออุปสรรคต่างๆที่มี รายล้อมรอบตัว และ สุดท้ายเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ส่งต่อให้ทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ก้าวผ่านไปอย่างหนักแน่นนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อความสัมพันธ์ถึงทางตัน

เมื่อคนสองคน ที่ถูกโชคชะตาชักนำพามาให้พบกัน มอบความหวังดีให้แก่กัน ใช้เวลาด้วยกัน ผ่านประสบการณ์ต่างๆมาด้วยกัน ผูกพันธ์กัน จนเกิดเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า ความรัก ที่ก่อเกิดขึ้นโดยคนสองคนที่มีให้แก่กัน เมื่อเส้นทางของความรักเริ่มเดินทาง การเรียนรู้มากมายเริ่มต้น ความขัดแย้ง การปรับตัว ที่่ทั้งสองคน ต้องแลกเปลี่ยน และ เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน ระยะเวลา จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะพัฒนาไปได้ไกลเพียงใด และเมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน

ทางเลือกที่มี

เมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน ทั้งสองฝ่าย เลือกที่จะ ต่างคนต่างแยกย้าย ต่างคนต่างไป เริ่มต้นใหม่ ถ้าเลือกวิธีนี้ ก็เป็นวิธีที่น่าจะเรียกได้ว่า หักดิบ เจ็บปวดเสียใจ แบบหนักไปเลย ครั้งเดียว เสียใจให้พอ เนื่องจาก ไม่ว่าจะฝืนคบไปซักแค่ไหน ก็ไม่มีโอกาสที่จะกลับมา เป็นเหมือนเดิม หรือมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง

เป็นการเลือก เพื่อจบปัญหาทั้งหมดที่เจอ ได้อย่างเด็ดขาด ไม่ต้องอยู่ กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่ต้องเจอกัน ทางเลือกนี้ ต้องอาศัยความเข้มแข็ง เมื่อตัดสินใจแล้ว ต้องอย่าใจอ่อน เวลาจะเป็น ตัวช่วยเยียวยา รักษา ความรู้สึกที่เศร้า และเสียใจ กับการความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง จนต้องตัดสินใจ ที่ต้องเลิกลากันไป

ยุติความสัมพันธ์

เมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน ทั้งสองฝ่าย เลือกที่จะยังคง คบกันต่อไป อาจจะเป็นด้วย หลายๆเหตุผล ที่แตกต่างกัน ในแต่ละคู่ เช่น เสียดายประสบการณ์ ที่ดีๆ ที่เคยใช้เวลาผ่านมาด้วยกัน เสียดายความรู้สึกที่มี ให้แก่กันที่มันดูจะมากมาย และลึกซึ้ง ยังรับไม่ได้กับ การต้องอยู่คนเดียว หรือคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มันน่าจะมีหนทางในการแก้ไข หรือคิดว่าจะลองพยายามดู อีกซักครั้ง เป็นต้น

การตัดสินใจที่จะ สานต่อความสัมพันธ์ ที่ได้ค้นพบว่ามันมีปัญหา และมีแนวโน้มว่า ไม่สามารถจะเดินหน้าต่อไปได้ แต่เลือกที่จะยังคงอยู่ที่เดิมต่อไป ก็ต้องยอมรับนะคะว่า ความอึดอัด กดดัน ในความสัมพันธ์ จะมีบทบาทมากขึ้น เป็นทวีคูณ ผู้ที่เลือกเส้นทางนี้ จะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งยึดมั่น ในความตั้งใจที่ได้เลือก

เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาที่ ทดสอบความอดทน และการพยายาม ของทั้งสองฝ่าย ว่าจะมั่นคงในกันละกัน ได้มากน้อยแค่ไหน และจะต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิด บททดสอบคนทั้งคู่ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ง่ายบ้าง ยากบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ ที่ทั้งคู่ได้พบเจอ ความรักที่มี จะเป็นแนวทางให้ทั้งคู่ ฟันฝ่ากับอุปสรรคที่ได้เจอ

อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ เมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน

บางความคิดเห็น เคยบอกว่า ถ้าเรายิ่งเสียเวลานาน กับคนที่ไม่ใช่ หรือ กับคนที่ สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถที่จะ ไปต่อด้วยกันได้ เป็นการสิ้นเปลืองเวลาและเสียโอกาส ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เหตุการณ์นำพา คนสองคนให้มาคบกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างมีเหตุผลของเวลา ที่นำพาคนทั้งคู่ให้มาได้พบเจอกัน จะไปด้วยกันรอดมั้ย  คำว่าเสียเวลา เสียโอกาส เป็นคำจัดความ ที่เห็นแก่ตัวมากเกินไป

เพราะในช่วงเวลา ที่ทั้งสองคน นั้นได้คบกัน คนทั้งคู่ได้เรียนรู้ ในกันและกัน และคนทั้งคู่ ได้ใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลาต่างๆ ผ่านประสบการณ์ ที่ดี หรือไม่ดี ลำบาก มีความสุข มีความทุกข์ ความขัดแย้ง อุปสรรคต่างๆมากมาย ด้วยกันมานั้น ทุกช่วงเวลา วินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าของคนทั้งคู่ คู่ควรต่อการจดจำ เป็นประสบการณ์หน้าหนึ่ง ในชีวิตของคนทั้งคู่

ทะเลาะวิวาท

บทส่งท้าย เมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน

เมื่อ ความสัมพันธ์ถึงทางตัน ทางเลือกจะ ถูกกำหนดโดย คนทั้งคู่ว่าจะเลือก แบบไหน ควรมองถึงปัญหา ให้ชัดเจนว่า มันใช่ปัญหาจริงๆหรือไม่ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วนั้น มันจะยังคง แก้ไขได้หรือไม่ การเปิดใจคุยกัน อย่างแท้จริง ถึงสถานการณ์ที่เกิด จะยิ่งเป็นตัวช่วยแก้ไขปัญหา หรือประคับประคองความรู้สึก ของทั้งสองฝ่าย

การเปิดใจ มองปัญหา หรือความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้น ด้วยความเข้าใจ แบบเป็นกลาง ที่ไม่ใช่การเข้าใจ ในแบบฝ่ายของ ความรู้สึกตัวเอง ว่าควรจะเป็นแบบไหน การเข้าใจ และ ตัดสินใจโดย ยึดมาตรฐานของตัวเอง เป็นที่ตั้ง ไม่ได้สร้างให้เกิดความเข้าใจ ที่แท้จริง ทั้งคู่ต้องรู้จักปรับตัว เข้าหากันคนละครึ่งทาง ลดความเป็นตัวตนของแต่ละคน เพื่อให้เกิดความรู้สึก ที่มีพื้นที่เหลือให้คนทั้งคู่ ได้ลองปรับตัวเข้าหากัน แบบจริงจัง

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และมีคุณค่า ความรู้สึกของความรัก เป็นเรื่องบอบบาง และน่าทนุถนอม อย่าล้อเล่นกับความรู้สึก ของตัวเองและอีกฝ่าย เคารพและ ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ของตัวเอง เชื่อในสัญชาติญาณ ของตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองเป็นผู้เลือก ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทะเลาะกัน มีปากเสียง เป็นเรื่องปกติ ที่ชีวิตคู่ ต้องพบเจอ เพราะความแตกต่างที่มี

แม้ว่า สุดท้ายแล้วคนทั้งคู่ จะได้ไปต่อ ในความสัมพันธ์ ครั้งนี้หรือไม่ หรือ ไม่ได้ไปต่อ จำเป็น ต้องยุติความสัมพันธ์ ก็ขอให้เป็นเรื่องราว ที่น่าประทับใจ และน่าจดจำ ในแบบที่ทั้งคู่ เกิดความเข้าใจ กันอย่างแท้จริง จบแบบเข้าใจ ไม่มีความรู้สึก ที่ยังคงค้าง ที่ยังสร้างความรู้สึก ที่เจ็บปวดมากเกินไป

ในอนาคต ถ้ามีโอกาสกลับมาเจอกันอีก ไม่ว่าจะสถานะการณ์ใดๆ ก็ยังสามารถเดินเข้ามาทักทาย สอบถาม ถึงความเป็นอยู่ของกันและกัน ได้อย่างสบายใจ เปรียบเสมือนได้เจอเพื่อนร่วมโลก ที่ในครั้งนึง เวลาช่วงนึงของชีวิต ได้นำพาคนทั้งคู่ให้เดินทางมาเจอกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อชีวิตต้องพบกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

0

เมื่อชีวิตต้องพบกับ การสูญเสีย เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ ไม่มีใครหนีพ้น การสูญเสียคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็น การจากลากัน แบบยังมีชีวิต หรือ การจากลากัน แบบไม่มีวันกลับมา หรือสามารถพูดคุยกันได้อีก ความรู้สึกที่ยังคงค้าง ในเรื่องที่อยากจะทำด้วยกัน ความรู้สึกผิด ที่ทำให้เข้าใจผิด หรือ มีเรื่อง ที่ยังไม่ได้ ปรับและทำความเข้าใจ แต่ก็ต้องล้มหาย ตายจากกันไปเสียก่อน

ความเสียใจที่ได้รับ แต่ละคนหนัก เบาไม่เท่ากัน บางคนรับไม่ได้ ทำใจไม่ได้ รู้สึกเหมือนชีวิต ที่เหลืออยู่มีแต่ความว่างเปล่า ชีวิตไปต่อด้วยความยากลำบาก บางคนอาจจะทำใจได้ เข้าใจ แต่ก็ต้องใช้เวลา กว่าความรู้สึก จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หรืออาจจะไม่เหมือนเดิม แต่อย่างน้อย ก็สามารถที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้

การสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่

นั่นก็คือ การสูญเสีย พ่อและแม่ อันเป็นที่รัก และเคารพที่สุดในชีวิต บางครอบครัว การสูญเสีย พ่อหรือแม่ อาจจะเกิดขึ้น ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน แต่ บางครอบครัว อาจจะสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ไปพร้อมๆกัน ก็อาจเกิดขึ้นได้ การทำใจยอมรับเป็นเรื่องที่ยาก  เพราะตั้งแต่ เกิดมาคนแรกที่ได้เห็นหน้า และรู้จัก ก็คือ พ่อและแม่

ทั้งสองท่าน เป็นผู้ที่คอยอยู่เคียงข้าง เราเสมอไม่เคยหนีห่างไปไหน ไม่ว่าจะเจอกับ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใด คำปลอบโยนที่มีให้ กำลังใจที่ส่งถึง คำสั่งสอน ที่คอยชี้แนะแนวทาง ในยามที่เราไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน เป็นเหมือน แสงสว่าง ที่เป็นเกราะกำบังที่ทำให้เรา เข้มแข็งและพร้อมที่จะต่อสู้กับอนาคต อันอีกยาวไกล ที่รออยู่ข้างหน้า

บางครอบครัว อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง ไม่พูดคุยกันบ้าง ไม่ได้พบเจอ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ครอบครัวก็คือครอบครัว พ่อแม่ก็คือครอบครัว สุดท้ายแล้วเมื่อชีวิตต้องพบ กับความยากลำบากหันมองกลับไป ก็จะเห็นทั้งสองท่าน ยืนคอยให้กำลังใจ เมื่อลูกต้องการเสมอ

ครอบครัวที่อบอุ่น

ถึงแม้บางครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อแม่กับลูก จะไม่ได้แน่นแฟ้น หรือเป็นครอบครัว ที่มีความอบอุ่น บางครอบครัว ต้องหย่าร้าง แยกย้ายกัน ไปด้วยปัญหา หรืออุปสรรค์ที่มี แต่เยื่อใย ในสายเลือด พ่อ แม่ ลูก มันก็ยังคงมีอยู่ ทุกหยดเลือดในร่างกาย

เมื่อวาระสุดท้าย ของชีวิตทุกคนนั้นมาถึง ต้องพบกับการจากลา ต้องทำอย่างไร ความรัก ความผูกพันธ์ ความห่วงใยที่มีให้กัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อจะไม่มีคนคนนี้อีกแล้ว มันจะเป็นอย่างไร มันไม่สามารถ จะจินตนาการได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร

บางคนมีความคิด ที่ว่าถ้าไม่มี พ่อและแม่ แล้วจะไม่สามารถ ดำเนินชีวิตต่อได้ ชีวิตจะอยู่ไม่ได้ มันเป็นเรื่อง ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ในเรื่องของการสูญเสีย มันไม่มีใครที่จะเตรียมใจอยู่เสมอ ที่จะต้องเจอ กับเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งบางครั้งเหตุการณ์ที่เกิด ก็มาในรูปแบบกระทันหัน ไม่ได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจ ว่ามันจะเกิดขึ้น

การสูญเสีย

วิธีเตรียมใจ ไว้รองรับการสูญเสีย

  1. ระลึกอยู่เสมอว่า การตาย การจากลา เป็นวงเวียนสุดท้าย ของชีวิตที่ ทุกคนต้องเจอ การทำใจ และยอมรับว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆในโลก ที่จะอยู่ค้ำฟ้า หรือ อยู่ถาวรตลอดไป ทุกสิ่งทุกอย่าง มีระยะเวลาของตัวมันเอง เมื่อถึงเวลา ก็ต้องไป
  2. เข้าใจ และอยู่กับความเป็นจริง ในสถานการณ์ที่เจอ เมื่อความตาย เริ่มใกล้เข้ามา และเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ให้รีบทำความเข้าใจ และเปิดใจ ยอมรับกับความเป็นจริง ให้เร็วที่สุด
  3. ชีวิต ที่เหลือ จำเป็นจะต้องก้าวต่อไป เมื่ออีกคนได้ลาจากไป อย่างไม่มีวันกลับ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไป เพราะ นาฬิกาชีวิตของแต่ละคน เดินได้นานไม่เท่ากัน

การบอกลา กับคนที่เรารัก เป็นเรื่องที่ยาก ที่จะทำใจ หรือ เข้าใจได้ แต่เมื่อถึงเวลา มันหลีกหนีไม่ได้ การอยู่อย่างมีสติที่อยู่กับตัวเอง และการเข้าใจกับช่วงเวลา ที่ต้องเจอ การปรับเปลี่ยน มุมมองในการใช้ชีวิต มองให้เป็นเรื่อง สัจธรรม ของชีวิตมนุษย์ ที่ไม่มีใครหลีกหนีได้ ซักวันก็ต้องถึงวันของเราเช่นกัน

การระลึก ถึงความตายเสมอว่า เป็นสิ่งที่ไม่ไกลตัวเลย ไม่ช้าก็เร็ว เมื่อเวลามาถึงทุกอย่าง ก็ต้องปล่อยให้มัน ดำเนินไปตาม สัจธรรมของชีวิตต่อไป พึงระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีใครที่จะต่อสู้ หรือ จะหนีพ้น ความตายได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

เซ็กส์ที่ยอดเยี่ยมกับการฝึกโยคะ

การฝึกโยคะเป็นประจำ สร้างประสบการณ์ เซ็กส์ที่ยอดเยี่ยม  เซ็กส์กับการฝึกโยคะ มีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร จะสามารถทำให้ เรื่องบนเตียงนั้นดีขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากผู้เขียน ก็เป็นผู้ที่ ฝึกโยคะเป็นประจำ จะขอแบ่งปันประสบการณ์ดีๆที่ได้ จากการฝึกโยคะ ที่ส่งผล ในเรื่องเกี่ยวกับเซ็กส์บนเตียง ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เซ็กส์กับการฝึกโยคะ ประโยชน์ ที่ได้รับ

ตั้งแต่ผู้เขียน เริ่มฝึกโยคะ และ ฝึกแบบ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน  ซึ่งแรกครั้งแรก เริ่มฝึก จากการซื้อหนังสือมาอ่าน และ ทำท่าตามที่มีในหนังสือ หลัวจากนั้น ก็ฝึก ด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนมากนัก เนื่องจากฝึกไม่ต่อเนื่อง ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็ตรงที่เริ่มสนใจซื้อเป็น สมาชิก เข้าเล่นตาม สตูดิโอที่มี ตามสถานที่ต่างๆ

เปลี่ยน สถานที่ไปเรื่อยๆ เนื่องจากต้องการเรียนรู้ ถึงความเอกลักษณ์ของ โยคะ ที่มีหลากหลายสไตล์ ฝึกแบบต่อเนื่องใน สตูดิโอ ฝึกด้วยตัวเองที่บ้าน โดยการดูวิดิโอ ที่มีผู้ฝึก ที่ต้องการแชร์ข้อมูล หรือ ประสบการณ์ฝึก ให้กับผู้สนใจ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วน่าจะประมาณ 4-5 ปี น่าจะได้ ที่โยคะ เข้ามาเป็นส่วนนึง ในชีวิตประจำวัน

ความเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็น ประโยชน์ จากการฝึกโยคะ ที่ส่งผลในเรื่องเซ็กส์ ที่เห็นหลักๆขอแยกเป็น 2 เรื่อง คือ

ประโยชน์ที่ได้จากร่างกายและสุขภาพ

  1. ร่างกายมีความแข็งแรงขึ้น มีความตื่นตัวในการทำกิจกรรม ไม่รู้สึกอ่อนล้า รู้สึกสดชื่น เหมือนได้เติมพลังงานชีวิต ให้กับร่างกาย
  2. อาการปวดเมื่อยต่างๆลดลง เวลามีกิจกรรมนานๆ บางครั้งหลังจากที่กิจกรรมจบแล้ว มักจะมีอาการปวดเมื่อย ตามอวัยวะต่างๆ โดย เฉพาะ บริเวณขา แต่หลังจากที่ร่างกายมีความยืดหยุ่นจากการฝึกโยคะ ทำให้อาการปวดเมื่อย นั้นลงลง การฝึกโยคะ บ่อยๆ เป็นการบริหารให้ร่างกาย ได้มีการยืดเหยียด ทำให้อวัยวะต่างๆ ได้ขยับขยาย สบายตัว
  3. สัดส่วนร่างกาย เริ่มกระชับมากขึ้น  เมื่อร่างกายกระชับ มากขึ้น เริ่มมีความมั่นใจ ในรูปร่างของตัวเอง ความสวยงาม ของร่างกาย ให้ความรู้สึก เหมือนร่างกายเป็น ศิลปะ ชิ้นงาม ชิ้นหนึ่ง ที่มีเรื่องราว การเคลื่อนไหว เป็นไปอย่างธรรมชาติ ประกอบด้วยอารรมณ์ที่พาไป สมบูรณ์แบบ
  4. ระบบขับถ่าย คล่องตัวดีมากขึ้น ระบบเผาผลาญ ของร่างกายดี ทำให้ร่างกายเบา สะอาด พร้อมสำหรับการทำกิจกรรม ไม่ต้องกังวลกับอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกาย รู้สึกอืดอัด มักจะทำให้ไม่พร้อมในการทำกิจกรรม เรื่องนี้โดยส่วนมาก จะส่งผลกระทบโดยตรง กับผู้หญิง ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญ เสมอ เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้ช่วงเวลาผ่านไปอย่างมีคุณค่า

position of sexual

  1. Sex Positions  สามารถ ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ไม่น่าเบื่อ เพราะร่างกายมีการยืดหยุ่นที่ดี ดังนั้น กระบวน ท่าทางต่างๆ ที่มี จะกลายเป็นการเพิ่มประสบการณ์ แปลกใหม่ในการทำกิจกรรมบนเตียง

ประโยชน์ที่ได้ในด้านอารมณ์และ ประสาทความรู้สึก สัมผัส

  1. ระดับอารมณ์ร่วมใน กิจกรรมบนเตียง รู้สึก ถึงความเป็นธรรมชาติของ ร่างกายมากขึ้น สัมผัสถึงร่างกาย ได้มากขึ้น มีความรู้สึกเหมือน ร่างกาย กับ ความรู้สึก มีจุดเชื่อมโยง ที่ถึงกันแบบแนบแน่น
  2. ภาวะ สมองปลอดโปร่ง สามารถปล่อยวางจากภาวะที่ รบกวนจิตใจได้ดีขึ้น เช่น ภาวะความเครียดจากเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องสังคมภายนอก ที่ต้องยอมรับว่า บางครั้ง เป็นตัวแปรที่ทำให้ ไม่รู้สึกผ่อนคลาย เวลามีกิจกรรมร่วมกัน
  3. ระดับ รสสัมผัสที่ได้รับ จากตัวเอง และจากคู่ของตน มันเป็นความรู้สึกที่ ลึกซึ้งมาก ทุกอณูเส้นขนในร่างกาย ตื่นตัว และตอบรับ ความรู้สึกได้ แนบแน่น
  4. ระดับ จุด สำเร็จ (Orgasm) ช่วงสุดท้าย เป็นความรู้สึกที่ มหัศจรรย์มาก แตกต่างจากเดิม อย่างชัดเจน

ความสบายตัวทางเพศ

บทส่งท้าย เรื่อง เซ็กส์กับการฝึกโยคะ

โดยปกติแล้ว ผู้เขียน ไม่ได้มีปัญหา เรื่องบนเตียงเลย ประสบความสำเร็จทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่อง ที่ผู้หญิงบางคน อาจจะไปถึงได้ยากหน่อย หรือ อาจจะไม่เคยถึง หรือ แค่บางครั้ง กับการทำกิจกรรมบนเตียง จากประสบการณ์ที่ได้พบเจอกับตัวเอง เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ ต้องขอย้ำไว้ก่อน

การฝึกโยคะ เป็นประจำ จะเป็นทางเลือกอีกทางนึง ที่สามารถทำให้ มีประสบการณ์ที่ดีๆ ในเรื่องบนเตียงได้ อีกตัวเลือกนึง ทั้งนี้ก็ขึ้น อยู่กับความสนใจของแต่ละคน ที่แตกต่างกัน บางคน อาจจะใช้ตัวเลือกแบบอื่นก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนเอง ยอมรับว่า ได้รับประโยชน์ ในเรื่อง เซ็กส์กับการฝึกโยคะ ที่เกิดขึ้น กับตัวเอง จริงๆ และจะยังคงฝึกแบบนี้ตลอดไป

 

 

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง