ทำไมคนเราไม่รู้จักพอ นั่นสินะมันเป็นคำถามที่ไม่รู้จะ หาคำตอบไหน ที่สามารถจะทำให้ เกิดความเข้าใจได้อย่างไร อย่างแรกเราคงต้องมา ดูกันก่อนว่าคำว่า ” พอ ” นั้นมีความหมาย ที่จำกัดความว่าอย่างไรบ้าง ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ได้ให้ความหมายไว้ว่า เท่าที่ต้องการ ควรแก่ความต้องการ เต็มที่เท่าที่จำเป็น เต็มตามต้องการ
โดยความเป็นจริงแล้วนั้น ความหมาย ไม่ได้ยากที่จะ พยายามเข้าใจว่า คำว่า ” พอ ” นั้นมีความหมาย ว่าอย่างไร แต่การกระทำนี่แหล่ะ ที่ดูเหมือนเป็น สิ่งที่ยากมาก สำหรับคนบางคน ที่เอาเข้าจริงๆ ตลอดระยะเวลา ในการใช้ชีวิตนั้น อาจจะห่างไกล คำว่าพอเสียด้วยซ้ำไป
ทำไมคนเราไม่รู้จักพอ ความอยากได้ ความต้องการ กิเลสตัณหา ไม่มีที่สิ้นสุด ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ ตัวเองนั้นมีความต้องการ จนบางครั้งลืมไปว่า บางสิ่งบางอย่างนั้น มีมากจนเกิน ความจำเป็น หรือบางสิ่ง บางอย่างนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น หรือมีความสำคัญกับชีวิตเลย ตัดๆมันออกไปบ้างก็ได้
เมื่อในสังคม มีคนที่ไม่รู้จักคำว่าพอ มากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมจะส่งผลต่อ การดำรงค์อยู่ ของคนที่อยู่ร่วมกัน ได้มากขึ้นตามลำดับ หรือถ้าจะอธิบายง่ายๆ ลักษณะจะคล้ายๆ อาการของคนเห็นแก่ตัว ที่เวลาจะทำอะไร จะต้องนึกถึง ตัวเองเป็นหลัก ความต้องการของ ตัวเองหรือกลุ่มพวกพ้องต้องมา เป็นอันดับแรกเสมอ
เงินทอง ทรัพย์สิน สมบัติภายนอก ที่ไม่รู้จักพอ
เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนเรานั้น จะแสวงหา ความสะดวกสบาย ที่จะทำให้ชีวิตนั้น ไม่ลำบาก ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทรัพย์สิน เงินทอง เป็นสิ่งที่จำเป็น ที่จะช่วยทำให้การใช้ชีวิตนั้นอยู่ได้ เงินทองเป็นตัวขับเคลื่อน ในการใช้ชีวิต ทำงานหาเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยต่างๆที่จำเป็น
ซื้อบ้านเพื่อให้มีที่อยู่อาศัย มีที่ซุกหัวนอน ซื้อรถเพื่ออำนวยความสะดวก ในเรื่องของการเดินทาง ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า อาหาร เครื่องมืออุปโภค บริโภคต่างๆที่ต้องใช้ ในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องใช้ เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีความสามารถ ในการจัดซื้อจัดหา ก็ต้องบริหารจัดการเพื่อให้ได้มา
แต่เคยสังเกตุมั้ยว่า ในหลายครอบครัว หลายๆมุมมองในการ ใช้ชีวิตของแต่ละคน ที่ไม่เหมือนกัน ทรัพย์สินสมบัติภายนอก มีมากมายเกินความจำเป็น บ้านที่อยู่อาศัย รถ ข้าวของเครื่องใช้ ซื้อแล้วซื้ออีก ไม่มีความพอดี ซื้อโดยที่ไม่รู้ว่า ควรจะหยุดที่ตรงไหน มีมากมายจนบางครั้ง ก็ดูแลไม่ทั่วถึง
ตำแหน่ง อำนาจ ชื่อเสียง ลาภยศสรรเสริญ ที่ไม่รู้จักพอ
หัวข้อนี้น่ากลัว เพราะอะไร เนื่องจากพฤติกรรม ของคนหรือกลุ่มคน ที่ไม่รู้จักพอในเรื่อง ตำแหน่งหน้าที่ หลงไหลในอำนาจ ความยิ่งใหญ่ในชื่อเสียงลาภยศสรรเสริญ ซึ่งในสังคมมี คนแบบนี้ค่อนข้างเยอะ คนที่เสพติด ในอำนาจ บารมีที่ได้รับมา ไม่ว่าจะได้มาด้วยอย่างไรก็ตาม
เราจะสังเกตุได้ว่า มักมีหลากหลาย สถานการที่คนเหล่านั้น ได้นำในสิ่งที่มีนั้น ใช้ไปในทางที่ ไม่เหมาะไม่ควร แต่ถ้านำไปใช้ได้ถูกต้อง นั่นย่อมเป็นเรื่อง ที่ก่อเกิดประโยชน์ได้ มากมามายมหาศาล บางคนบอกว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว บางคนชอบที่จะอยู่ใน สถานะธรรมดา เพื่อจะได้ไม่ต้องมี เรื่องที่วุ่นวายหรือ ต้องรับผิดชอบมากมาย จนเกินไป
แต่ก็มีกลุ่มคน ที่ชอบที่จะมีอำนาจ เพื่อแสดงตนว่ายิ่งใหญ่ มากเพียงใด ต้องการที่จะ เป็นยอมรับต่อคนอื่นๆ ในสังคมหรือในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง บางคนถึงกับไม่ยอม ที่จะลงมาจากจุดที่ ตัวเองอยู่เพราะรับ ไม่ได้ที่จะต้องตัวเล็กลง จากที่เคยเป็นคนที่ ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จัก เคารพนับถือหรือ เรียกได้ว่า พวกจมไม่ลง
วงจรความรัก ที่ไม่รู้จักพอ
ผิดหวังในความรัก ไม่ใช่แค่เรื่อง คนสองคนหมดรักกัน แล้วก็ต้องเลิกลากันไป หรือเราไปด้วยกันไม่ได้ เพราะนิสัยที่แตกต่างกันเกินไป ปรับตัวแล้วก็ยังเข้ากันไม่ได้ นอกจากเรื่องนี้นั้น ยังมีอีกเรื่องที่น่าเสียใจ และเจ็บปวดมาก และทำให้ความรัก ไปต่อไม่ได้นั่นคือ การหลงเข้าไปอยู่ในวงจร ของความรักที่ไม่รู้จักพอ
วงจรที่หลงเข้ามา โดยบางคนรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ซึ่งมันเป็นความรัก ความต้องการที่ไม่ได้มี แค่เราสองคน มันเกิดขึ้นได้กับคน ที่มีรักที่ไม่คิดที่จะหยุด หรือพอแค่คนๆเดียว เป็นความรักที่ตอบสนองความต้องการ ของตัวเองล้วนๆ ความต้องการที่มีมาก มีคนเดียวไม่พอ ต้องการไปเรื่อย
ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องของความรัก จำเป็นจะต้องให้น้ำหนัก ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ความพึงพอใจ และความต้องของ คนสองคนเป็นสิ่งที่สำคัญ และก็น่าจะเพียงพอ แต่มันจะไม่มีผล หรือความสำคัญ กับคนไม่รู้ค่าของมัน เมื่อความความรัก ถูกมองว่าเป็นเหมือนเครื่องมือตอบสนอง ความต้องการ แค่ฝ่ายเดียว มันจึงเป็นการเริ่มต้น ที่ต้องไปเจอกับจุดจบ ที่เจ็บปวด
ส่งท้าย
ความต้องการของคน ที่ไม่เคยเพียงพอ ต่อสิ่งที่พึงได้ ในชีวิต มัวเมากับอำนาจ ต้องการเงินทองมากมาย ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ซื่อสัตย์ต่อความรักที่มีค่า ไม่เคยเพียงพอ ต่อสิ่งที่ได้มา และพยายามที่จะขวนขวาย ให้ได้เพิ่มขึ้นอีก หรือไม่ก็พยามยามกอด สิ่งที่มีอยู่ให้แน่นที่สุด ไม่คิดที่จะปล่อยวางเพื่อคนอื่น
ความต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพียงแต่ว่า มันจะต้อง ไม่ส่งผลกระทบ ให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ความมัวเมาลุ่มหลง โดยไม่คิดที่จะสนใจถึงคนอื่น ไม่สนใจความถูกต้อง ไม่สนใจว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนควรละเลิก ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควร ที่จะกระทำ ลองกลับมาคิดใคร่ครวนดูใหม่ได้เสมอว่าเราเป็นแบบนั้นหรือไม่
ลองคิดถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้อง นึกถึงใจเขาใจเรา เพื่อเป็นการไม่ทำร้ายกันเอง และไม่เป็นการนำพา ซึ่งความไม่สงบสุข ในสังคม เกิดมาหนึ่งชีวิต ลองคิดถึงคนอื่นบ้าง นอกเหนือจากการคิดฝักใฝ่ แต่เรื่องของตัวเองอย่างเดียว การช่วยเหลือพึ่งพากัน ในสังคม ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้นหยุด และลองมองคนข้างๆว่า เค้าเหล่านั้นได้รับผลกระทบ จากการกระทำของเราเป็นอย่างไร